เศรษฐกิจระบบนิเวศน์ได้เพิ่มโอกาสหลากหลายในระบบเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตามมันก็มักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ องค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยระบบนิเวศน์นี้จำเป็นต้องรู้จักการสังเกตุการณ์และตอบสนองต่อความท้าทาย 4 แบบ จึงจะสามารถหลีกเลี่ยงผลเสียจากเศรษฐกิจระบบนิเวศน์นี้ได้
รูปแบบการกระจายตัวของธุรกิจ
ในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทหลายบริษัทจะมีการสร้างแพลทฟอร์ม และผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะมีการสร้างแพลทฟอร์มรูปแบบนี้ โดยเฉพาะกับธุรกิจ startups ซึ่งรวมไปถึง fintech, healthtech, edutech หรือแม้แต่ adtech และจะมีอีกหลายองค์กรที่มีการขยายธุรกิจ โดยการรวมธุรกิจกับอีกหนึ่งองค์กร
และการเพิ่มจำนวนขององค์กรอย่างมหาศาลนี้อาจส่งผลกระทบต่อลูกค้า เนื่องจากมีแอพพลิเคชั่นให้ลูกค้าเลือกมากจนเกินไป, ยากต่อการหาร้านค้าที่มีคุณภาพ และในเวลาเดียวกันนักลงทุนต้องประสบปัญหากับเป้าหมายการลงทุนเยอะแยะมากมาย
จนในที่สุดจะกลับกลายเป็นปัญหากับตัวบริษัทเอง พวกเขาจะต้องเผชิญกับการจัดการห่วงโซ่อุปทานที่มีความซับซ้อน เพราะมีคนเข้ามามีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทานมากจนเกินไปนั่นเอง
ความเสี่ยงการบริหารจัดการ
องค์กรอาจตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรรมหลายๆประเภท เริ่มจากการโจมตีในโลกไซเบอร์, การแฮคข้อมูล, โกง, ละเมิดสิทธิทางกฎหมาย ไปจนถึงการก่อการร้าย โดยเฉพาะในกรณีที่พวกเขามีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น โปรแกรมการชำระเงิน โซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือการเก็บข้อมูลสำรองบน cloud อาจตกเป็นเป้าหมายต่อนักโจมตีในโลกไซเบอร์ได้
เพราะฉะนั้นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีควรตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ โดยการสนับสนุนการหาวิธีป้องกันในโลกไซเบอร์
กฎระเบียบและการกำกับดูแล
ภาระผูกพันทางสังคมไม่ถูกตรวจสอบ
ลูกค้าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจระบบนิเวศน์นี้ประสบความสำเร็จ เพราะองค์กรต้องการความเชื่อใจจากลูกค้า ถ้าพวกเขาคิดว่า บริษัทไม่สามารถปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของพวกเขาได้ พวกเขาอาจใช้วิธีทางกฎหมายหรือจริยธรรม เพราะถ้าพวกเขาขาดความเชื่อมั่นจากลูกค้าแล้ว ลูกค้าอาจไม่ต้องการพึ่งองค์กรอีกต่อไป แต่ในทางกลับกันลูกค้าอาจต้องการเป็นเจ้าของข้อมูลด้วยตนเอง