เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินจำนวน 200 เที่ยวบิน เนื่องจากมีการประท้วงที่สนามบินในเที่ยวบินต่างประเทศ จนทำให้สนามบินที่ฮ่องกงถูกปิด และยังส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างๆอีกด้วย

ผู้ประท้วงจำนวนกว่าพันคนได้ไปรวมตัวกันที่สนามบินฮ่องกง โดยสนามบินแห่งนี้เป็นสนามบินที่ขึ้นชื่อว่า คนเยอะที่สุดเป็นอันดับสามในแถบเอเชีย ซึ่งรองลงมาจากปักกิ่งและโตเกียว การประท้วงได้เกิดขึ้นและยืดยาวนานเป็นเดือนๆ และยังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของฮ่องกงอีกด้วย และที่แย่ไปกว่านั้นการประท้วงนั้นพ่วงมากับการใช้ความรุนแรง.

ด้วยความแออัดของสนามบินเมื่อเย็นวันจันทร์ ทำให้เที่ยวบินถูกยกเลิกไปหลายเที่ยวบิน เนื่องจากอาจเกิดอันตรายแก้นักท่องเที่ยว และส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงของธุรกิจทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงผู้โดยสารมากกว่า 74 ล้านคนทั้งที่ต้องการบินออกและเข้าประเทศเมื่อปีที่แล้ว  นอกจากนั้นสนามบินยังต้องรับมือกับผู้โดยสารจำนวน 1,100 คน และเครื่องบินที่ใช้ในการขนส่งในแต่ละวัน โดยสนามบินต้องรับผู้โดยสารจาก 200 ประเทศทั่วโลก

มากไปกว่านั้นรายได้จากสนามบินฮ่องกงยังส่งผลกระทบต่อค่า GDP สูงถึง 5% และจากผลกระทบนี้ทำให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาเที่ยวในฮ่องกงต้องยกเลิกเที่ยวบินกันอย่างล้นหลาม

ธุรกิจเล็กๆ

ฮ่องกงเป็นเหมือนบ้านของบริษัท Fortune Global 500  จำนวน 7 แห่ง โดยรวมไปถึง Lenovo (LNVGF) และ CK Hutchison (CKHUY) และด้วยผลกระทบจากการยกเลิกเที่ยวบินครั้งนี้ทำให้เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ทำให้จำนวนนักเที่ยวจำนวนมากเปลี่ยนเส้นทางการบินไปยังจีนแผ่นดินใหญ่

มีหลายคนกล่าวว่า เศรษฐกิจฮ่องกงลดถอยลง เนื่องจากการยกเลิกเที่ยวบินเร็วจนเกินไป ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย ยกตัวอย่างเช่น บางประเทศได้มีการเตือนผู้ที่ต้องการมาเที่ยวที่ฮ่องกงเรื่องการประท้วงครั้งนี้

และนี่อาจเป็นสิ่งที่ฮ่องกงต้องกังวล และกลัวสิ่งที่ตามมา เพราะถ้ามีจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยลง ธุรกิจโรงแรมก็จะแย่ลงตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้นตลอดไป และหวังว่าสนามบินฮ่องกงจะกลับมากู้ชื่อเสียงตนเองได้อีกครั้ง

สุดท้ายนี้เหตุการณ์นี้อาจเปิดโอกาสให้กับบางประเทศ อย่างสิงคโปร์ เพราะสิงคโปร์เป็นประตูทางผ่านอีกประตูหนึ่งของจีน และทุกประเทศในเอเชีย ถ้าไม่นับรวมเซียงไฮ้และเซิ่นเจิ้น โดยสองประเทศนี้มีการพัฒนาตลาดทางการเงินอย่างรวดเร็วและน่าจับตามอง