ก่อนที่เราจะเข้าเรื่อง ขอถามเรื่องหนึ่งค่ะว่า ธุรกิจของคุณเคยประสบความสำเร็จจนทำให้ลูกค้าถึงกับร้อง “ว้าว” ไหมล่ะคะ?

ถ้าคำตอบคือ ไม่เคย ก็อย่าคาดหวังเลยค่ะว่า ลูกค้าทั้งหลายจะกลับมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากบริษัทของคุณอีก

Chron เผยว่า “ว้าว” เป็นคำสแลงที่มักจะถูกใช้ในธุรกิจ โดยคนส่วนใหญ่มักใช้คำนี้ในการพูดถึงองค์กรหรือธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม

โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก และคำว่า “ว้าว” สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ และลูกค้าเก่าๆ ให้กลับมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการอีกครั้ง

เพราะฉะนั้นเพียงแค่คำว่า “ว้าว” เพียงพยางค์เดียว เป็นคำที่สำคัญมากๆ และคุณควรรวมคำนี้ไว้ในกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณด้วย

ทำไมน่ะหรอ?

ถ้าคุณสามารถทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงคำว่า “ว้าว” ได้ พวกเขาจะหลายมาเป็นลูกค้าประจำของคุณอย่างแน่นอน

มากไปกว่านั้นพวกเขายังเป็นคนที่สามารถช่วยสนับสนุนแบรนด์ของคุณ หรือพวกเขาอาจแนะนำให้กับลูกค้าคนอื่นให้รู้จักธุรกิจของคุณก็เป็นได้ค่ะ

เพราะฉะนั้นปัจจัยอะไรที่ทำให้ลูกค้าต้องพูดว่า “ว้าว” ออกมา?

การกล่าวขอบคุณ

คุณอาจจะต้องบอกให้ลูกค้ารู้ถึงความพยายามและความใส่ใจ โดยการเขียนคำขอบคุณให้กับลูกค้า

จำไว้เลยค่ะว่า วิธีการนี้มันก็เหมือนครั้งสุดท้ายที่คุณได้รับจดหมายหรือโปสการ์ดจากเพื่อนสนิทของคุณ คุณมีความสุขขนาดไหน ลองนึกดูสิคะ

หรือคุณอาจรู้สึกในทิศทางเดียวกัน เมื่อคุณซื้อของผ่านร้านค้าออนไลน์ที่ขายของจำพวกงานแฮนเมค และคุณก็ได้รับการ์ดขอบคุณด้วยเช่นกัน

และนี่อาจเป็นความรู้สึกที่ประทับใจจนต้องร้อง “ว้าว” แล้วหลังจากนั้นคุณอาจจะหยิบมือถือของคุณขึ้นมา แล้วถ่ายรูปลงอินสตราแกรมก็ได้ค่ะ 

สินค้าของคุณจะต้องมีแพ็กเกจที่ดูเหมาะสม

Forbes กล่าวว่า ในปี 2016 จำนวนผู้บริโภคสูงถึง 51 เปอร์เซ็นต์ที่ซื้อสินค้าออนไลน์ เพราะฉะนั้นการแพ็คสินค้าใจำเป็นต้องแพ็คให้ดูเรียบร้อย

เพราะมันอาจส่งผลต่อความรู้สึกเมื่อลูกค้ากำลังจะเปิดสินค้าของคุณดู ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาไม่มีทางลืมเลยค่ะ

สินค้าทุกอย่างจะต้องถูกแพ็คอย่างระมัดระวัง คุณควรให้ลูกค้ามีความรู้สึกเหมือนกับลูกค้ากำลังเปิดสินค้าราคาแพงอยู่ เพราะฉะนั้นคุณจะต้องคิดและหาวิธีที่มีความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากมันจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าของคุณนั่นเอง