Thai Trading Focus

การทำงานที่บ้านสามารถทำได้จริง แล้วทำไมไม่ย้ายออฟฟิศไปที่บ้านเลยล่ะ

บางบริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการทำงานหลังจากที่เกิดภาวะวิกฤตโรคระบาด Covid-19 ในประเทศสิงคโปร์ โดยนโยบายนั้นได้ส่งเสริมให้พนักงานทำงานที่บ้านนั่นเอง

ยกตัวอย่างเช่น ร้านขายผ้าม่านแห่งหนึ่งได้ทำการตัดต่อวิดีโอเพื่อนำเสนอสินค้าตัวใหม่ให้กับพนักงาน ซึ่งพนักงานสามารถนำเอาวิธีการสอนจากวิดีโอผ่านการวิดีโอคอลไปใช้กับลูกค้า แทนที่จะขายสินค้าให้กับลูกค้าที่ร้าน

มากไปกว่านั้นการทำงานในลักษณะนี้ยังทำให้ระบบการดำเนินธุรกิจพัฒนาขึ้นไปอีกด้วย

Ms. Charlotte Thng กล่าวว่า ทรัพยากรมนุษย์กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดของประเทศสิงคโปร์, ออสเตรเลีย, กลุ่ม ASEAN และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ได้ทำการจ้างพนักงานสูงถึง 10,000 คนในประเทศสิงคโปร์ และยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของเครือข่ายส่วนตัวเสมือน หรือ virtual private network สูงขึ้นถึง 11 เท่า

เทคโนโลยีส่งผลกระทบต่อธุรกิจเป็นอย่างมากในช่วงโควิด

โควิด 19 นี้ส่งผลให้ธุรกิจหลายแห่งต้องซื้ออุปกรณ์ด้าน IT เพิ่มขึ้นสูงถึง US$100 (S$138) ยกตัวอย่างเช่น การซื้อหน้าจอแสดงผลและคีบอร์ด เพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานที่บ้านนั่นเองค่ะ

ณ ตอนนี้บริษัทจะต้องดูว่า พนักงานมีความสะดวกสบายในเรื่องของการกลับมาทำงานในออฟฟิตหรือสถานที่ทำงานหรือไม่ ถ้าในกรณีที่สถานการณ์กลับมาเป็นปกติแล้ว เนื่องจากการทำงานที่บ้านเป็นๆการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากในเรื่องของสไตล์การทำงานเดิม

บริษัทได้ทำการสังเกตุการณ์ และพบว่า ในทางปฎิบัติ การสื่อสารโทรคมนาคมหรือการประชุมในรูปแบบออนไลน์มีความยืดหยุ่นขึ้น และยังมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ทวิตเตอร์ กล่าวว่า ในเดือนพฤษภาคม ถ้าพนักงานยังต้องทำงานที่บ้าน พวกเขาก็จะยังคงทำงานที่บ้านเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ

มากไปกว่านั้นใน Facebook ยังกล่าวอีกว่า ในเดือนพฤษภาคมคาดว่า พนักงานประมาณครึ่งหนึ่งของ 48,000 คน จะทำงานที่บ้านภายในระยะเวลา 10 ปี และบางสถานการณ์พวกเขาจะต้องตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป

Chan Chun Sing รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมเผยว่า ในปัจจุบันโอกาสที่พนักงงานจะทำงานที่บ้านเป็นประจำนั้นมีโอกาสสูง

มากไปกว่านั้น 57% ของงานในประเทศสิงคโปร์จะเป็นงานในตำแหน่งผู้จัดการ, ผู้บริหาร, ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และช่างทางเทคนิค