1. อย่าทำให้ลูกค้าตกใจกับค่าธรรมเนียมขนส่ง

ค่าธรรมเนียมสำหรับขนส่งสินค้าเป็นสิ่งที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรน่าแปลกถ้าคุณจะเก็บค่าธรรมเนียมการขนส่งจากลูกค้า แต่คุณจะต้องบอกลูกค้าให้ชัดเจน ก่อนที่ลูกค้าจะทำการสั่งซื้อสินค้า

ยกตัวอย่าง ถ้าคุณต้องการเก็บค่าธรรมเนียมแบบคงที่ ให้คุณเขียนไว้บนหน้าเพจของคุณ หรือเขียนไว้บนเพจของสินค้าแต่ละประเภท หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ ถ้าคุณจะเก็บค่าธรรมเนียมการขนส่งในแต่ละคำสั่งซื้อ ให้คุณเขียนคำอธิบายที่รถเข็นของร้านค้า (ในช่วงแรกของการสั่งซื้อ ไม่ใช่เอาไว้หลังสุด)

หรือวิธีที่ชัดเจนที่สุด คุณอาจจะทำปุ่มกด “คำนวณค่าธรรมเนียมการขนส่ง” ไว้ภายในรถเข็น เพื่อที่ให้ลูกค้าได้ใช้ในการคำนวณต้นทุนที่เพิ่มขึ้นก่อนกระบวนการเช็คเอ้าท์สินค้า

2. อย่าบังคับให้ลูกค้าสมัครสมาชิก

ลูกค้าหลายคนไม่ต้องการใช้เวลามากไปกับกระบวนการสั่งซื้อ หรือเป็นสมาชิก พวกเขาให้ความสนใจแต่วิธีการเพื่อให้ได้มาของสินค้า

ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการลดลงของจำนวนลูกค้า เนื่องจากพวกเขาจะต้องใช้เวลาในการสมัครสมาชิก คุณควรจะมีทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ไม่เป็นสมาชิกด้วย ซึ่งคุณจะได้มีทางเลือกให้กับลูกค้าทั้งกลุ่มที่สนใจและไม่สนใจที่จะเป็นสมาชิกนั่นเองค่ะ

3. อย่าประเมินผลกระทบจากรีวิวออนไลน์ต่ำเกินไป

รีวิวออนไลน์เป็นปัจจัยสำคัญมากต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากรีวิวออนไลน์เป็นการให้ลูกค้ารู้จักธุรกิจของคุณว่า ธุรกิจของคุณมีสินค้าและบริการที่ดี ไม่ใช่ธุรกิจที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ลองคิดถึงผลกระทบของรีวิวบนเว็บ Amazon ซึ่งเป็นเว็บขายหนังสือ เป็นต้น