4 วิธีในการเป็นเศรษฐี
1. เริ่มให้เร็ว
การเริ่มต้นออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อยเป็นหัวใจหลักในการวางแผนการเก็บเงินเพื่อใช้ในยามเกษียณ คุณอาจจะลดการใช้จ่ายสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปตั้งแต่คุณอายุ 20ปี ไปจนถึง 40ปี หรืออาจมากกว่านั้น เงินที่คุณสะสมมาจะช่วยคุณในยามที่คุณเกษียณค่ะ
เงินของคุณจะเป็นการเพิ่มดอกเบี้ย ถ้าคุณทำการออมเงินและนำเงินนั้นไปลงทุน ซึ่งนั่นก็หมายความว่า คุณกำลังเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง ดังนั้นยิ่งคุณเริ่มออมเงินเพื่อนำเงินไปลงทุนเร็วเท่าไหร่ เงินทุนของคุณก็จะเพิ่มรายได้ให้คุณมากขึ้นเท่านั้น
สมมุติว่า ณ ตอนนี้คุณอายุ 22 คุณมีอาชีพที่ดีและเป็นอาชีพแรกของคุณ หัวหน้าคุณได้ให้หุ้นมูลค่า 401(k) เป็นจำนวน 100% ของ 6% แรกของผลตอบแทนของคุณเอง
หลังจากนั้นคุณจะได้ 37% ของเงินเดือนซึ่งอยู่ที่ $57,000 ดังนั้นคุณจะได้รับเงินเป็นจำนวน $18,500 ต่อปี โดยเฉลี่ยแล้วอัตราผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้น 2% และผลตอบแทนต่อปีคุณได้อยู่ที่ 6% เพราะฉะนั้นเมื่อคุณอายุ 30 ปี คุณจะได้เงินมากกว่า $216,000 ในพอร์ตฟอริโอ้ของคุณเอง
2. ออมเงินเพื่อการลงทุน
คุณจะต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างการออมเงินและการลงทุน ถ้าคุณต้องการที่จะเรียนรู้วิธีการเป็นเศรษฐี คุณจะต้องออมเงินในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ยกตัวอย่างเช่น การฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์, บัญชีตลาดเงิน หรือบัตรเงินฝาก
บัญชีที่ให้บริการฟรี หมายความว่าความเสี่ยงที่จะเกิดผลขาดทุนมีน้อย และเมื่อคุณได้รับผลตอบแทนในอัตราที่ต่ำ นั่นก็หมายความว่า คุณไม่สามารถได้รับผลตอบแทนแบบเป็นกอบเป็นกำ
แต่ถ้าคุณอยากได้ผลตอบแทนสูง คุณจะต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่น ตราสารหุ้น, กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตาม การ trade-off เป็นโอกาสหนึ่งที่จะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่ารายได้
3. การกระจายรายได้
การทำงานฟูลไทม์จะช่วยให้คุณสร้างได้เพื่อนำไปลงทุน แต่ถ้าคุณมีเป้าหมายที่จะเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านดอลลาร์ คุณอาจจะต้องหารายได้ทางอื่นเสริมด้วย
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คุณจะต้องจำเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น การมีอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้ผู้อื่นเช่า คุณจะได้รายได้จากส่วนนี้แบบรายเดือนและเป็นรายได้คงที่ ซึ่งรายได้นี้เป็นรายได้แบบ passive income หรือหมายถึง รายได้ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องตราบใดที่คุณยังมีผู้เช่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ของคุณอยู่
4. ติดตามเป้าหมายและรู้จักคุณค่าของคุณเอง
การตระหนักถึงคุณค่าของคุณและวิธีการที่สัมพันธ์กับความสามารถของคุณในการสร้างความมั่งคั่งเป็นสิ่งจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น การต่อรองเงินเดือนกับบริษัทของคุณเพื่อที่คุณจะได้รายได้เพิ่มขึ้น และนำเงินส่วนนั้นไปเก็บออมนั่นเอง
ในทางเดียวกันการใช้ทักษะของคุณเอง โดยการทำงานเป็นฟรีแลนซ์ หรือขายของออนลไน์ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คุณจะเข้าใจคุณค่าที่แท้จริงในตัวคุณ และรู้จักใช้มันเพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายของคุณเองค่ะ