1. การตั้งงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น

ถ้าคุณรู้ตัวเองว่า บัตรเครดิตของคุณเองนั้นจะรูดไม่ผ่านแล้ว คุณจำเป็นจะต้องตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปก่อนที่คุณจะเพิ่มหนี้ให้กับตัวเองมากขึ้น คุณจะต้องตั้งงบประมาณเพื่อใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น

อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายบางอย่างที่คุณจำเป็นที่จะต้องจ่าย และไม่ควรที่จะหยุดจ่ายเลยนั่นก็คือ ค่าเช่า, เงินกู้, ประกันภัย, อาหาร และค่าเดินทาง

คุณอาจจะต้องใช้เวลาในการตีกรอบค่าใช้จ่ายที่จำเป็น และตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป

2. เรียงลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่ายที่คุณต้องจ่าย

ถ้าคุณมีหนี้สินเป็นจำนวนมากและบัตรเครดิตของคุณก็ไม่สามารถรูดได้ คุณจะต้องเผชิญปัญหาการจ่ายชำระหนี้ต่างๆ นั่นก็หมายความว่า การชำระหนี้นั้นเป็นสิ่งที่คุณจะต้องทำเป็นอย่างแรก

ยกตัวอย่างเช่น การจ่ายชำระเงินกู้, เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา, ไวไฟ และค่าสมาชิกวิดีโอในแต่ละเดือน

คุณควรที่จะพิจารณาว่าคุณพอที่ตัดค่าใช้จ่ายอะไรออกไปได้บ้าง เพื่อที่จะออมเงิน หรือคุณอาจเลือกที่จะใช้ฮอตสปอร์ตในการแชร์อินเตอร์เน็ต

3. หารายได้เพิ่มเพื่อนำมาชำระค่าบัตรเครดิต

ถ้าคุณอยู่ในสภาวะการเงินที่ย่ำแย่ ซึ่งอาจเป็นเพราะว่า รายได้ในแต่ละเดือนของคุณไม่พอที่จะนำมาใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพราะฉะนั้นคุณควรที่จะหาวิธีแก้ปัญหาในระยะยาว ซึ่งนั่นก็หมายความว่า คุณจะต้องกลับไปเรียนหนังสือเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม หรือหางานโดยใช้ทักษะที่คุณมี

ดังนั้นคุณอาจจำเป็นจะต้องหางานเพิ่มเพื่อนำเงินเหล่านั้นมาชำระหนี้ที่คุณมีค่ะ

4. วางแผนการชำระหนี้

คุณควรที่จะวางแผนการชำระหนี้ โดยเริ่มจากการโฟกัสที่เงินของคุณเอง เพื่อที่คุณจะได้จ่ายชำระหนี้ได้เร็วขึ้น

จากนั้นคุณจะต้องนำเงินมาจ่ายบิลของเดือนนั้นๆ แลัวนำเงินที่เหลือมาจ่ายชำระหนี้ โดยการเคลียร์หนี้เป็นครั้งๆไป เพื่อที่จะใช้หนี้สินต่างๆให้หมดไปอย่างรวดเร็ว