นักลงทุนที่โด่งดังและมีชื่อเสียง (ตอนที่ 2)
กลยุทธ์การลงทุนของเขาเป็นที่นิยมใช้กันในอุตสาหกรรมการลงทุน และเขายังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า ซึ่งเขาโฟกัสไปที่อัตราส่วน P/E และค่าผลตอบแทนของเงินปันผลของบริษัท
ตลอดเวลา 31 ปี ที่เขาได้ดูแล Windsor Fund (สิ้นสุดในปี 2538) ซึ่งกองทุนนั้นได้ผลตอบแทนสูงถึง 13.7% เมื่อเทียบกับ S&P 500 ที่ 10.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยสูงกว่า 55 เท่าของเงินลงทุนเริ่มต้นที่ได้ลงทุนไว้ในปี 2507
Jesse Livermore
Jesse Livermore ไม่ได้มีประสบการณ์หรือความรู้เรื่องการเทรดหุ้นมาก่อน แต่เขาได้พิสูจน์ตัวเองจากการขวานขวายหาความรู้ด้วยตนเองจากข้อผิดพลาดและข้อดีจากการลงทุนของเขาเอง
ในระหว่างทาง เขาได้เรียนรู้ทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว ซึ่งช่วยให้เขาได้แนวคิดหรือไอเดียในการเทรดจนทำให้เขามีวันนี้ได้ Livermore ได้เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ที่เขาอายุยังน้อย และเขาได้สร้างกำไรจากการเทรดได้มากกว่า $1,000, ตั้งแต่อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากในยุคนั้น
Peter Lynch
ตั้งแต่ปี 2520 ไปจนถึง 2533 Peter Lynch ได้บริหารจัดการกองทุน Fidelity Magellan Fund ซึ่งเขาประสบความสำเร็จจากกองทุนนี้ โดยกองทุนนั้นเริ่มจาก $20 ล้านดอลลาร์ได้กลายมาเป็น $14 ล้านล้านดอลลาร์ มากไปกว่านั้นยังมีรายงานอีกว่า Lynch ได้เอาชนะ S&P 500 Index benchmark เป็นเวลา 11 ปีใน 13 ปี ที่เขาได้ดูแลกองทุนนี้ และยังได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 29%
ซึ่ง Peter Lynch ได้ถูกขึ้นชื่อว่าเป็น “กิ้งก่าคาเมเลี่ยน” เนื่องจากเขาสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เข้ากับสถานการณ์นั้นได้ เมื่อเขาทำการเลือกเทรดหุ้น มากไปกว่านั้นเขายังเข้าใจและรู้ถึงสถานการณ์กับสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่อีกด้วย
Warren Buffett
นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จอีกหนึ่งคนก็คือ Warren Buffet เขาได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “Oracle of Omaha” และเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์
เขาได้ใช้แนวทางพื้นฐานการลงทุนของ Benjamin Graham โดยการรวบรวมเงินหลานพันล้านดอลลาร์เพื่อนำไปลงทุนในหุ้นและบริษัทต่างๆ ผ่าน Berkshire Hathaway
สำหรับนักลงทุนที่ลงทุน $10,000 ใน Berkshire Hathaway ในปี 2508 ในปัจจุบันมูลค่าการลงทุนนั้นสูงกว่า $50 ล้านดอลลาร์ไปเรียบร้อยแล้ว
สไตล์การลงทุนของ Buffett จะต้องมีความอดทน, มีวินัย และสร้างมูลค่าได้อย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาสิบๆ ปี