วิธีเอาชนะและพิชิตความเครียดจากการลงทุน
ไม่มีสิ่งใดในโลกใบนี้ที่ได้มาง่ายๆครับ กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของความสำเร็จนั้น เบื้องหลังล้วนมีเส้นทางที่ขรุขระ ผ่านความล้มเหลว ผ่านลมผ่านพายุ แล้วผู้ที่สามารถก้าวผ่านสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาได้ ก็กลายมาเป็นบุคคลที่แข็งแกร่ง และเป็นแรงบันดาลใจของใครหลายๆคนในโลกใบนี้ครับ
และแน่นอน ในโลกของการลงทุนนั้น มิใช่ว่าหนทางจะปูไปด้วยกลีบกุหลาบ อย่างน้อยๆอุปสรรคแรกที่คุณจะต้องพบเจอและเตรียมใจยอมรับ ก็คือความล้มเหลวและความเสี่ยงต่อการขาดทุนนั่นเอง มันเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะมีความสุขไปเสียตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม เราสามารถสร้างความสุขให้มากขึ้น และมีเทคนิคพิชิตความเครียดได้ ทำได้อย่างไรนั้นเราไปดูกันครับ
วิธีพิชิตความเครียดจากการลงทุน
1.เข้าใจธรรมชาติของการลงทุน
เทคนิคพิชิตความเครียดข้อแรก คือการเข้าใจธรรมชาติของการลงทุน แน่นอนว่าทุกๆการลงทุน ย่อมมีโอกาสขาดทุนครับ และผมเชื่อว่าหลายๆคน โดยเฉพาะนักลงทุนนั้น จะต้องเคยได้ยินประโยคสุดคลาสสิค ที่ว่า High risk High return อันมีความหมายว่า ยิ่งการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงมากเท่าไร ผลตอบแทนก็จะยิ่งสูงมากเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ หากคุณลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงสูงมากๆ เช่นการเทรด Forex คุณจะต้องทำความเข้าใจกับธรรมชาติของมันว่า Forex เป็นการลงทุนที่คุณสามารถทำกำไรได้ง่าย เก็บกำไรได้ไว แต่หากหุ้นเก็งกำไร หรือคาดการณ์ตลาดผิดพลาด คุณก็สามารถสูญเสียเงินจำนวนมากไปในเวลาไม่กี่วินาทีได้เช่นกัน
นี่ก็คือหนึ่งในตัวอย่างของการลงทุนที่เป็น High risk High return ดังนั้น หากคุณไม่เข้าใจ และไม่ยอมรับธรรมชาติของการลงทุนชนิดนั้นๆ เวลาที่คุณเสี่ยงแล้วพลาด เกิดขาดทุนขึ้นมา คุณก็จะเครียดมากเป็นพิเศษ ดังนั้น วิธีพิชิตความเครียด อันดับแรก คุณควรจะทำความเข้าใจเสียก่อน ว่าธุรกิจที่คุณกำลังลงทุนอยู่นั้น จะต้องพบเจอกับความเสียงอะไรบ้าง เพื่อที่คุณจะได้เตรียมตัวให้พร้อมจัดการกับความเสี่ยงต่างๆเหล่านั้น แล้วเวลาที่คุณเกิดพลาดขึ้นมา คุณจะได้มีการพร้อมรับมือ และเตรียมใจเอาไว้แล้ว ก็จะช่วยคุณแบ่งเบาความเครียด ไม่ให้เครียดมากเกินไปนั่นเองครับ
2.ยอมรับความเป็นจริง
ในบางโอกาสการเพ้อฝันและจินตนาการก็เป็นสิ่งที่ดี แต่สำหรับการลงทุน เราควรจะอยู่กับความเป็นจริงมากที่สุดครับ บางครั้งเมื่อเราเกิดขาดทุนขึ้นมา ร้านเรามองดูสภาพการแล้วไม่สามารถที่จะฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะเวลาสั้นๆ เราก็ควรจะยอมรับความจริงและหาทางรับมือให้เหมาะสม มากกว่าการฝืนทำต่อไป อาจจะทำให้คุณขาดทุนเพิ่มมากกว่าเดิม และหากมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ความเครียดเดิมที่มีอยู่แล้วก็จะยิ่งมากขึ้นครับ
วิธีพิชิตความเครียดข้อต่อมาเราจึงควรจะนำหลักธรรมะง่ายๆเข้ามาใช้ นั่นก็คือการอยู่กับความเป็นจริง การเข้าใจธรรมชาติ การยอมรับ หรือเรียกง่ายๆว่าในบางครั้งเมื่อมันไม่ไหวแล้วเราก็อย่ายึดมั่นถือมั่น แต่ให้ปล่อยวาง และมองหาโอกาสอื่นๆ บางครั้ง ใจที่ดื้อรั้นมากเกินไป ก็จะทำให้ตาของเรามืดบอด และอาจจะพลาดโอกาสที่ควรจะมองเห็นนั่นเอง
3.หาเวลาพักผ่อนให้ตัวเอง
เทคนิคพิชิตความเครียดข้อต่อมา คือการหาเวลาพักครับ เพราะแม้แต่เครื่องจักรยังต้องหยุดทำงาน นับประสาอะไรกับมนุษย์เรา เวลาที่คุณเกิดความเครียด ความท้อแท้ การฝืนทำต่อไปอาจไม่ใช่คำตอบที่ดี เพราะนอกจากจะเป็นการยิ่งบั่นทอนสภาพจิตใจ และสภาพร่างกายแล้ว ผลลัพธ์จากการที่เราฝืนทำมักจะไม่ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจสักเท่าไหร่ ดังนั้น ยามที่คุณเครียดมากๆ หนึ่งในวิธีที่พิชิตความเครียด ก็คือหาเวลาพักผ่อนเพื่อรีบูทตัวเอง การพักผ่อนไม่ได้หมายความแค่ว่าออกไปเที่ยว หรือนอนพัก แต่ยังรวมถึงการหากิจกรรมที่คุณชื่นชอบมาทำ เช่น อ่านหนังสือ ออกไปหาของอร่อยๆทาน เล่นเกม ดูหนัง เป็นต้น เพื่อเป็นการทำให้สภาพจิตใจของคุณได้ผ่อนคลายจากภาระหนักๆครับ
4.อย่าเอาความสุขของตัวเองไปฝากไว้กับคนอื่น
คุณเคยเห็นใครบางคนที่ชีวิตก็ไม่ได้ลำบากอะไร ธุรกิจก็ไม่ได้ล้มละลาย อีกทั้งยังไปได้สวยทีเดียว แต่เขาก็ยังคงไม่มีความสุขไหมครับ ผมเคยเห็นคนประเภทนี้มามาก และได้ลองเข้าไปสอบถามดูว่า ทำไมทั้งๆที่ดูเหมือนชีวิตจะมีพร้อมขนาดนี้ แต่คุณก็ยังคงไม่มีความสุข คำตอบที่ผมได้ก็คือ เพราะเขามองว่าตัวเองยังไม่ประสบความสำเร็จมากพอหากเทียบกับคนอื่น หรือไม่ก็ เพราะว่าลูกหลานหรือคนใกล้ชิดของเขานั้น ยังทำตัวไม่ได้ดั่งใจ พอคิดเช่นนี้แล้ว ก็มีแต่ยิ่งเครียดขึ้นไปเรื่อยๆ
ซึ่งเวลาที่จะมาพิชิตความเครียดในส่วนนี้ ก็คือการที่เราควรจะลดความคาดหวัง และอย่าเอาความสุขของตัวเองไปฝากไว้กับคนอื่นครับ เพราะหากเรายิ่งมองว่าเราควรจะเป็นอย่างนี้ เราควรจะเหมือนคนนั้น คนนี้ แล้วเราก็คาดหวังให้ลูกหลานหรือคนใกล้ตัวของเรานั้นเป็นเหมือนกับคนอื่นๆ ที่เรามองว่ามันดี มันเหมาะสม เมื่อเราคาดหวังมากๆเข้าและสิ่งเหล่านั้นไม่เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ เราก็จะเครียดนั่นเองครับ ดังนั้น หากเราลองปรับมุมมองเสียใหม่ ใช้เวลาอยู่เงียบๆและคิดทบทวนดูว่า ชีวิตของเรา ณ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ลำบากไหม ต้องไปกู้เงินคนอื่นไหม ลูกหลานคนรอบตัวของเราเป็นคนเลวหรือเปล่า?
หากว่าไม่ใช่ แล้วเราจะไปกังวล หรือไปคาดหวังทำไมว่าเราจะต้องเป็นเหมือนกับคนอื่นๆ เพราะสุดท้ายแล้ว เวลาที่เรามีความสุข คนเหล่านั้นก็ไม่ได้รับรู้ และเวลาที่เรามีความทุกข์หรือเครียด คนเหล่านั้นก็ไม่ได้รับรู้เช่นกัน ดังนั้น เราอยากให้ใครที่ไหนซึ่งไม่ได้รู้จักมักคุ้น ให้มาเป็นอิทธิพลเหนือเราครับ เพียงแค่เราโฟกัสที่ตัวเอง และคนที่คุณรัก เพียงเท่านี้ก็เป็นเทคนิคง่ายๆที่จะพิชิตความเครียดมันไม่จำเป็นได้ แล้วจะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น
อย่าลืมว่าคนเรานั้นเกิดมาเพียงคนเดียวนะครับ และทุกคนก็มีความแตกต่างกันไป ไม่มีใครสามารถเป็นเหมือนใครได้ ดังนั้น เราเป็นตัวเอง มีความสุขของตัวเอง ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน สำหรับผม คิดว่าเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ
ไม่มีใครในโลกใบนี้ไม่เคยผิดพลาด เพราะมนุษย์เราไม่ใช่สิ่งที่สมบูรณ์แบบ สิ่งสำคัญก็คือ เมื่อพลาดแล้วเราเรียนรู้อะไรจากมันได้บ้าง แล้วเราจะต้องสามารถลุกขึ้นยืนขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม ความคิดของเราเป็นสิ่งสำคัญ หากเรามัวแต่จมต่อกับความทุกข์ อดีต การขาดทุน และความผิดพลาด เราก็ไม่มีทางก้าวไปต่อได้ ดังนั้น เราควรจัดการกับความคิดด้านลบเหล่านี้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเทคนิคพิชิตความเครียดนั่นเอง