ปัญหาการเงิน 3 ข้อที่คุณอาจพบเจอในทุกๆ เดือน

เงินเดือนของคุณเพียงแก่การใช้จ่ายในแต่ละเดือนของคุณหรือไม่? ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นกับคุณทุกๆ เดือน คุณอาจจะถามตัวเองว่า เงินของฉันไปไหนหมด ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และยังเ็นปัญหาที่คอยตามหลอกหลอนคุณในทุกๆ เดือน

คุณมักจะไม่ตระหนักถึงรายจ่ายของแต่ะเดือนเนื่องจากคุณไม่เคยจัดบันทึกการใช้จ่ายเงินของคุณเลย ซึ่งนั่นก็หมายความว่า คุณไม่มีแผนทางการเงินที่ชัดเจน
เมื่อพูดถึงค่าใช้จ่าย อาจเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อความจำเป็นในแต่ละวัน, การจ่ายชำระหนี้, ค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง และอื่นๆ เป็นต้น ค่าใช้จ่ายเเหล่านี้ไม่มีการจัดสรรเป็นสัดส่วน ส่งผลให้เงินของคุณอาจหมดไป ก่อนถึงวันที่คุณจะได้รับเงินเดือนใหม่อีกครั้ง

ดังนั้นในบทความนี้เราจะพูดถึงปัญหาทางการเงิน 3 ข้อ ที่ส่งผลให้ชีวิตของคุณเกิดความขัดสนทางการเงินได้

ใช้จ่ายมากเกินไป

หลังจากที่คุณได้รับเงินเดือนแล้ว คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักควบคุมการใช้จ่ายของตัวเอง
หรือเราเรียกว่าการใช้จ่ายเกินตัว หรือไม่มีการคำนวณ ถ้าเป็นเช่นนี้ เงินเดือนที่คุณได้มา อาจอยู่ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ด้วยซ้ำ มากไปกว่านั้นคุณยังไม่เหลือเงพียงพอที่จะจัดสรรไปยังส่วนของเงินที่เก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน และการลงทุน

เงินเดือนอาจไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายเพื่อดำรงชีวิต และอาจทำให้คุณรู้สึกว่า เวลาในแต่ละวันทำไมเดินช้าลง  และสับสน
ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเรื่องนี้คือ “ประหยัด” หรือการเก็บหอมรอบริบให้ได้มากที่สุดเป็นสิ่งที่จะช่วยคุณแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนด้านอาหาร, การเดินทางไปทำงาน, การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

ถ้าคุณบริหารจัดการการเงินได้ดี คุณจะไม่มีทางประสบปัญหานี้อย่างแน่นอน และคุณจะไม่ประสบปัญหาเมื่อที่คุณเคยเป็นมา เนื่องจากค่าใช้จ่ายถูกบริหารจัดการอย่างระมัดระวัง

มากไปกว่านั้นคุณยังสามารถมีความสุขไปกับการทานอาหารดีๆ, การสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง 1 ครั้งต่อเดือน และหมดกังวลไปกับการจ่ายค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือน หรือคุณไม่จำเป็นต้องเดินทางเท้าเื่อลดต้นทุนการเดินทางอีกต่อไป

ไม่มีเงินเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน

เนื่องจากความต้องการของคุณมีความสำคัญ ทำให้คุณอาจลืมคิดถึงการเก็บเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน และการเก็บเงินไว้เพื่อใช้ในยามฉุกเฉินนั้นมันดูง่ายเกินไป
คุณอาจมีคำถามในหัวที่ว่า “ฉันไม่ได้ป่วยทุกเดือนสักหน่อย” หรือ “ใจเย็นๆ ถ้าฉันป่วย ฉันค่อยใช้ประกันสุขภาพก็ได้” ทั้งนี้ทั้งนั้นการเก็บเงินเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญมากในเรื่องของการบริหารจัดการการเงิน เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้ว ทุกคนมักจะเกิดปัญหาที่ต้องใช้เงินฉับพลัน เช่น การป่วย, อุบัติเหตุ, ว่างงาน และอื่นๆ

ถ้าในอนาคต คุณเกิดปัญหาที่ต้องใช้เงินกระทันหัน ในขณะที่คุณไม่มีเงินเก็บเหลืออยู่เลย คุณจะต้องไปหายืมเงินจากผู้อื่นเพื่อนำมาใช้จ่าย ซึ่งส่งผลให้คุณจะต้องจ่ายชำระหนี้ที่คุณสร้างขึ้น

หนี้สินนี้จะเป็นภาระทางการเงินในทุกๆ เดือน และนั่นก็หมายความว่า คุณมีภาระในการจ่ายชำระหนี้เพิ่มขึ้น หรืออีกความหมายหนึ่งคือ คุณสร้างหนี้ขึ้นมาใหม่จากหนี้สินที่มีเป็นประจำอยู่แล้ว
ดังนั้นเมื่อคุณมีหนี้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้คุณมีโอกาสที่จะผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้น เพราะฉะนั้นการเก็บเงินเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งสำคัญ
สำหรับการจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้ควรเป็น 10% ของรายได้ สำหรับคนโสดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนอาจอยู่ที่ประมาณ 3-6 เท่า ในขณะที่คนที่แต่งงานแล้วและมีบุตร ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 6-12 เท่า

ถอนเงินเก็บมาใช้เป็นประจำ

การออมเงินเป็นเงินที่เอาไว้ใช้ในอนาคตหรือเพื่อเป้าหมายทางการเงิน ซึ่งไม่ควรถูกนำมาใช้โดยตั้งใจ แต่การเก็บเงินในบัญชีออมทรัพย์เป็นวิธีที่ง่ายต่อการถอนเงินมาใช้
บางครั้งอาจจะต้องใช้ความอดทน ยิ่งคุณมีเงินในมือน้อยเท่าไห การชำระเงินผ่านบัตรเดบิตหรือ ATM ก็จะยิ่งมากเท่านั้น และสุดท้ายเงินในบัญชีของคุณก็จะลดลงตามไปด้วย

และการกระทำเช่นนี้จะกลายมาเป็นนิสัยติดตัว ไม่เพียงแต่คุณจะนำเงินมาใช้เพียงครั้งหรือสองครั้ง คุณจะทำเช่นนี้เป็นประจำสม่ำเสมอ แต่ที่แย่กว่านั้นคุณจะไม่มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นเลย และในที่สุดเงินในบัญชีคงเหลือของคุณอาจไม่เหลือเลยก็เป็นได้