กำไรของ BYD เพิ่มขึ้น 500% จากปีที่แล้ว
BYD บริษัทยานยนต์ไฟฟ้าของจีน กำลังเติบโตไปเป็นบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งมีกำไรมากกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
Bloomberg News เผยเมื่อวันที่ 29 ว่า BYD ประกาศกำไรสุทธิของปีที่แล้วที่ 16.6 หมื่นล้านหยวน ซึ่งสูงขึ้น 446% จากปีที่แล้ว
ทั้งนี้เป็นไปตามที่ประมาณการรายรับเบื้องต้นที่ 1.6 หมื่นล้านถึง 1.7 หมื่นล้านหยวน จากรายงานเมื่อวันที่ 30 มกราคม และเกินการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ของ Bloomberg ที่ 15.98 หมื่นล้านหยวน
BYD กล่าวว่า เขาขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน และแบบ Hybrid ในตลาดโลกเมื่อปีที่แล้ว พบว่า ยอดขายรวมในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ครึ่งหนึ่งของยอดขายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน
เพราะฉะนั้น ส่วนแบ่งการตลาด BYD ในตลาดรถยนต์ที่ใช้พลังงานใหม่ของประเทศจีนเพิ่มสูงขึ้นที่ประมาณ 30%
Tesla ซึ่งเป๋นคู่แข่งขันที่ดุเดือดกับ BYD ในตลาดจีน มียอดขาย 1.31 ล้านคันทั่วโลก
SNE Research องค์กรวิจัยการตลาดด้านพลังงาน เผยว่า BYD มียอดขนส่งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ Hybrid เพิ่มสูงขึ้น 205% ในปีที่แล้ว ซึ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แซงหน้า Tesla
Bloomberg คาดการณ์ว่า BYD คาดว่าจะเห็นการเติบโตของผลการดำเนินงานในปีนี้ผ่านการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ล้ำสมัย ทั้งนี้ทั้งนั้นอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มที่จะถูกกดดันจากการแข่งขันด้านราคาที่กระตุ้นโดย Tesla
BYD หยุดผลิตหัวรถจักรสันดาปภายใน เมื่อปีที่แล้ว
ในขณะที่ BYD โดดเด่นในประเทศนอร์เวย์, เดนมาร์ก, อังกฤษ, ไทย, ออสเตรเลีย ทั้งนี้ทั้งนั้นBYD ยังไม่มีแผนที่จะเข้าตลาดรถยนต์ในสหรัฐซึ่งคู่แข่งใหญ่ก็คือ Tesla นั่นเอง Viyadi Chairman Wang Chuan-fu กล่าว
Chairman Wang Chuan-fu เผย ณ วันประกาศผลการดำเนินงานไว้ว่า ตลาด NEV ของจีนเข้าสู่ขั้นการขยายแผนธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ
มากไปกว่านั้นเขายังกล่าวอีกว่า เนื่องจากไม่มีแผนที่จะเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ในทันที ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบต่อบริษัท ในเรื่องของกฎหมายว่าด้วยการลดอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ