เราควรลงทุนในช่วงภาวะเงินฝืดหรือไม่?
คำจำกัดความที่ง่ายที่สุดของภาวะเงินฝืดก็คือ เมื่อราคาสินค้าและบริการลดลง หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ภาวะเงินฝืดเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับอัตราเงินเฟ้อนั่นเอง การลงทุนในช่วงภาวะเงินฝืดยังสามารถทำกำไรได้ ถ้าคุณเข้าใจแนวคิดและกลยุทธ์ที่ถูกต้อง
ภาวะเงินฝืดคืออะไร และเหตุใดเราจึงควรลงทุนในช่วงนั้น
ภาวะเงินฝืดเป็นคำที่กำหนดสภาพแวดล้อมของสินค้าและบริการเมื่อราคาลดลง เพราะฉะนั้นอย่าสับสนกับภาวะเงินเฟ้อ เมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง
บางครั้งภาวะเงินฝืดเรียกอีกอย่างว่า อัตราเงินเฟ้อติดลบ หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ เมื่ออัตราเงินเฟ้อน้อยกว่า 0%
โดยปกติแล้วภาวะเงินฝืดจะเกิดขึ้นในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ความต้องการสินค้าและบริการลดลง ดังนั้นผู้ผลิตสินค้าและบริการจะลดราคาลง เพื่อให้ได้ยอดขายมากขึ้น
ในกรณีที่ภาวะเงินฝืดร้ายแรง ผู้บริโภคจะชะลอการซื้อ เพราะคาดการณ์ว่าราคาจะลดลงอีก ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในปี 2550-2551 อัตราเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 0% ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าและบริการลดลง นั่นอาจฟังดูดีในสายตาของผู้บริโภค แต่จริงๆ แล้วเป็นการแสดงถึงความต้องการที่ลดลงอันเป็นผลมาจากกำลังซื้อที่ลดลง
กลยุทธ์การลงทุนและการป้องกันความเสี่ยง
เนื่องจากราคาของสินทรัพย์กำลังลดลง ดังนั้นคุณจึงต้องหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์ประเภททองคำ อสังหาริมทรัพย์ เงินสด และหุ้น การลงทุนที่ดีในช่วงนี้ก็คือ กองทุนพันธบัตร โดยเฉพาะพันธบัตรระยะยาว เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยก็ลดลงเช่นกัน ส่งผลให้ราคาพันธบัตรสูงขึ้น
นอกจากนี้กองทุนรวมกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป็นการลงทุนที่ดี รวมไปถึงการดูแลสุขภาพและสาธารณูปโภค อุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการอยู่เสมอ ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ยกตัวอย่างเช่น ประชาชนยังต้องไปพบแพทย์เมื่อเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้นหุ้นในกลุ่มนี้จะไม่ลดลงแย่เท่ากับกลุ่มอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ช่วงภาวะเงินฝืดยังคงสร้างความท้าทายให้กับนักลงทุนอยู่บ้าง โดยปกติแล้วราคาหุ้นจะลดลงพร้อมกับผลกำไรของบริษัท
ในช่วงเวลานี้ การลงทุนที่ดีที่สุด ได้แก่ กองทุนพันธบัตรระยะยาว กองทุนพันธบัตรที่ไม่มีคูปอง และกองทุนหุ้นปันผล
ในทางตรงกันข้าม ประเภทการลงทุนที่อาจไม่ได้ผลในช่วงเวลานี้ ได้แก่ กองทุนโลหะมีค่าและกองทุนตลาดเงิน