ทำความรู้จักกับดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ถ้าหากว่าเราพูดถึงเจ้าพ่อแห่งวงการหุ้นแล้วล่ะก็ ชื่อแรกที่เราจะต้องนึกถึง ก็คงหนีไม่พ้นตำนานอย่าง วอเร็น บัฟเฟตต์ ครับ แต่หากว่าเราพูดถึงเฉพาะในประเทศไทยล่ะ? มีใครบ้างที่เราจะนึกถึง?
ผมเชื่อว่า หากเป็นคนที่เทรดหุ้นอยู่แล้ว จะต้องรู้จักชื่อนี้ครับ กับดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้ซึ่งหลาย ๆ คนเรียกว่า “วอเร็น บัฟเฟตต์” แห่งประเทศไทยครับ
ด.ร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เป็นใคร?
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร คือนักลงทุน วิทยากร และนักเขียน เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจและการลงทุน โดยเฉพาะเรื่องของหุ้น นอกจากนี้ ดร.นิเวศน์ยังเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมการลงทุนเน้นคุณค่าแห่งประเทศไทยอีกด้วย
ซึ่งหากเรากล่าวถึงสมาคมการลงทุนเน้นคุณค่าแห่งประเทศไทย ต้องเล่าย้อนกลับไปอีกครับว่า ดร.นิเวศน์นั้น เรียกได้ว่าเป็นบุคคลแรกในไทย ที่เผยแพร่แนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ผ่านทางหนังสือที่ชื่อว่า “ตีแตก : กลยุทธ์การเล่นหุ้นในภาวะวิกฤต” ครับ
นอกจากจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการลงทุนแล้ว ดร.นิเวศน์ยังเป็นบุคคลต้นแบบ ที่แสดงให้เห็นว่า คนเราสามารถประสบความสำเร็จได้ แม้ไม่ได้มีพื้นเพมาจากการครอบครัวที่ร่ำรวย หรือเพียบพร้อมครับ เรามาดูแบล็คกราวด์ หรือความเป็นมาของดร.นิเวศน์ ก่อนที่จะมาเป็นวาเร็น บัฟเฟตต์แห่งประเทศไทยกันดีกว่า
จากครอบครัวคนจีนที่ยากจน สู่การเป็นดร. และนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เกิดในครอบครัวคนจีนยากจน ความแร้นแค้นและลำบากของครอบครัว ทำให้ท่านไม่รู้แม้แต่วันเกิดของตัวเอง แต่สำหรับ ดร.นิเวศน์นั้น ความลำบากไม่ได้ทำให้เขาถดถอย แต่เป็นสิ่งที่ผลักดันให้เขาก้าวเข้าสู่โลกแห่งการลงทุน
การลงทุนของดร.นิเวศน์ เกิดขึ้นครั้งแรกตอนที่เขายังเป็นเด็กชายนิเวศน์ โดยเขานำเงินไปซื้อหมากฝรั่งหนึ่งแถวราคา 7.50 บาท เอามาขายปลีก ซึ่งทั้งแถวสามารถขายได้ 11 บาท จากนั้นก็ต่อยอดโดยการนำกำไรไปซื้อขนมอื่น ๆ มาขายเพิ่ม อาจกล่าวได้ว่า ท่านเป็นคนที่มีหัวทางด้านการลงทุนมาตั้งแต่เด็กเลยทีเดียว
การเรียนดีและขยันหมั่นเพียรเป็นหนึ่งในต้นทุนที่ดีที่สุด แม้ว่าจะยากจน แต่ดร.นิเวศน์ได้ศึกษา ร่วมไปกับการทำงาน จนจบระดับปริญญาเอกที่ University of Mississippi
ทีนี้ เรามาพูดถึงเรื่องที่น่าจะทำให้หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักดร.นิเวศน์กันดีกว่า นั่นก็คือเรื่องของหุ่นครับ โดยดร.นิเวศน์ได้เริ่มเทรดหุ้นในที่พ.ศ.2539 และในการเทรดหุ้นนั้น เหตุการณ์อันเป็นตำนานก็คือช่วงปี 40 ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งที่ใคร ๆ ต่างก็พากันล้ม แต่ดร.นิเวศน์นั้นไม่ใช่ เขาได้ใช้เงินที่เก็บหอมรอมริบไว้ 10 ล้านบาท ไปซื้อหุ้นไว้ในช่วงวิกฤตครั้งนี้ ก่อนที่หุ้นเหล่านั้นจะหลายเป็นมูลค่ากว่าหนึ่งพันล้านบาทในเวลาเพียงสิบปี! เรียกได้ว่าในช่วงเวลาที่ทุกคนเห็นแต่วิกฤต แต่ดร.นิเวศน์กลับมองเห็นโอกาสนั่นเองครับ
และนี่ก็คือเรื่องราวคร่าว ๆ ของลูกหลานคนจีนจน ๆ คนหนึ่ง ที่ไม่ย่อท้อกับความยากลำบาก และก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในคนที่ประสบความสำเร็จในแวดวงหุ้นที่สุดนั่นเองครับ