กลุ่มธุรกิจแห่งอนาคต
กาลเวลาเป็นสิ่งที่ไม่เคยรอใครครับ โลกของเรานั้นยังคงหมุนไปสู่อนาคต เมื่อสักสามปีก่อนเรามีการพูดถึงอนาคตยุค 4.0 ขึ้นมา ซึ่งเป็นที่ตื่นตัวกันไปทั้งประเทศ แต่จนถึงปัจจุบัน เราก็ยังไม่ได้พัฒนาไปสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 เต็มรูปแบบเสียที
แม้ว่าประเทศเรานั้นยังไม่ได้ดำเนินไปถึงจุดหมายที่ตั้งเอาไว้ ทว่าเราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า หลายสิ่งรอบตัวเรานั้นยังคงพัฒนาไปอย่าต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามโลกที่เปลี่ยนไป เรามาดูกันดีกว่าครับว่า ในโลกที่เปลี่ยนไปทุกวันนี้ มีกลุ่มธุรกิจแห่งอนาคตใดที่น่าสนใจบ้าง
กลุ่มธุรกิจแห่งอนาคต มีอะไรบ้าง
หากเรามองกันในภาพใหญ่ ๆ หนทางที่เราจะพัฒนาเศรษฐกิจของไทยให้ก้าวไกลขึ้นได้นั้น เริ่มมาจากการสร้างความเข้มแข็งจากภายในครับ
การสร้างความเข้มแข็งจากภายใน หมายถึง การพัฒนา ยกระดับนวัตกรรม การสร้างประเทศไทยให้เป็นสังคมของผู้ประกอบการ และการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและเครือข่าย ซึ่งจะทำให้เกิดการ Beyond product มาสู่ Business model
การเน้นIdea ความคิดสร้างสรรค์ และอาศัยความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศไทย คือเรื่องของ ความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลายในด้านวัฒนธรรม ในการเป็นหลักพัฒนา ซึ่งจากความได้เปรียบในสองข้อนี้จะทำให้ไทยเกิดกลุ่มอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีใหม่ขึ้นมา ได้แก่
กลุ่มแรก
Food, Agricultural Products and Bio Technology ซึ่งธุรกิจ New Startups ที่จะเกิดขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีนี้ได้แก่ AgriTech และ FoodTech
กลุ่มที่สอง
Health, Wellness and Biomedical Technology โดยธุรกิจ New Startups ที่จะเกิดขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีนี้ได้แก่ HealthTech
กลุ่มที่สาม
Smart Devices, Robotics and Mechatronics โดยธุรกิจ New Startups ที่จะเกิดขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีนี้ได้แก่ Robotech หรือหุ่นยนต์อัตโนมัติ
กลุ่มที่สี่
Digital Devices, Internet of Things and Embedded Technology โดยที่ธุรกิจ New Startups ที่จะเกิดขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีนี้ได้แก่ FinTech, EdTech, E-Marketplace, E-Commerce และService enhancement
กลุ่มที่ห้า
Culture, Creativity and High Value Services โดยที่ธุรกิจ New Startups ที่จะเกิดขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีนี้ได้แก่ DesignTech, Lifestyle Business และTravelTech
การเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยสู่เศรษฐกิจโลก หมายถึง การเชื่อมโยงกัน ของเศรษฐกิจในสามระดับ คือ เศรษฐกิจภายในประเทศ (Domestic Economy) เศรษฐกิจภูมิภาค (Regional Economy) และ เศรษฐกิจโลก (Global Economy)
การเชื่อมโยงกันระหว่างเศรษฐกิจภายในประเทศ และเศรษฐกิจระดับภูมิภาค มีหลักแนวคิดสำคัญคือ การมอง ‘CLMV as our home Market’ กล่าวคือ มีการเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดในสามภาคส่วน คือรัฐบาล กับรัฐบาล ภาคธุรกิจ กับภาคธุรกิจ และภาคประชาชน กับภาคประชาชน) โดยที่เราจะมองและเจาะตลาดเป็นเมืองๆไป โดยไม่มองว่าเป็นประเทศนั่นเอง
และนี่ก็คือกลุ่มธุรกิจแห่งอนาคต ที่เราสามารถเริ่มลงมือหยิบจับและริเริ่มได้ตั้งแต่ในปัจจุบันครับ