1. ไม่ลงทุน

หลายคนอาจคิดว่าการลงทุนเป็นอะไรที่ยาก ซึ่งต้องการทั้งระเบียบวินัยและความมุ่งมั่น ดังนั้นเพื่อหยุดความคิดเช่นนี้ นักลงทุนจะต้องหยุดความคิดที่ว่า เราสามารถลงทุน “ภายหลัง” ได้

โดยทั่วไปแล้ว เมื่อคุณยังอายุน้อยอยู่ และคุณต้องการที่จะนำเงินมาลงทุน คุณจะต้องทำงานเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มานกว่าเดิม ดังนั้นเมื่อคุณได้นำเงินไปลงทุนแล้ว จำนวนเงินที่คุณลงทุนจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการได้รับดอกเบี้ยและเงินปันผล เนื่องจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น

ยิ่งปล่อยเงินลงทุนให้เงินเป็นตัวทำงานนานเท่าไหร่ มูลค่าที่คุณจะได้ในอนาคตก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และต้อนทุนที่เกิดขึ้นก็จะน้อยลงด้วยเช่นกันค่ะ

2. ไม่อยู่บนพื้นฐานของความจริง

สำหรับการลงทุนแล้ว คุณจะต้องมีความคาดหวังที่เป็นไปได้จริงด้วย

อย่าคาดหวังการลงทุนที่ต้องการผลตอบแทน 50% ทันทีที่คุณลงทุน ถึงแม้ว่าจะมีหุ้นบางชนิดที่มีผลตอบแทน 50% เมื่อตลาดหุ้นและเศรษฐกิจอยู่ในสภาวะที่ดี แต่โดยทั่วไปแล้วหุ้นมักจะมีความผันผวนสง ดังนั้นราคาหุ้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาค่ะ

คุณจะต้องหลบหลุมพรางที่อาจเกิดจากการคาดการณ์การลงทุนผิดพลาดในปีที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก และผลตอบแทนโดยเฉลี่ยที่ได้อาจจะอยู่ที่ 8% ไปจนถึง 12% ต่อปีในระยะยาว

3. ไม่ทำการกระจายความเสี่ยง

การกระจายความเสี่ยงเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยคุณลดความเสี่ยงโดยรวมจากการลงทุน และยังเป็นการช่วยให้การลงทุนของคุณมีความผลอดภัยมากขึ้นเมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ มากไปกว่านั้นยังทำให้เงินทุนของคุณมีความคงที่, สม่ำเสมอ การลงทุนในดัชนีเงินทุนเป็นวิธีที่ฉลาดในการกระจายความเสี่ยงของการลงทุนค่ะ

4. อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามาขับเคลื่อนการลงทุนของคุณ

ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนที่อายุน้อยหรืออายุมาก การลงทุนส่วนใหญ่มักจะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง การลงทุนที่มีราคาแพง จะทำให้ความสำเร็จในอดีตเป็นตัวสร้างกำไรจากการลงทุนได้ยาก

ในทางกลับกันเมื่อตลาดนั้นอยู่ในช่วงขาลงหรือเศรษฐกิจไม่เป็นไปในทิศทางขาขึ้น นักลงทุนหลายคนต้องการที่จะขายการลงทุนนั้นหรือหลีกเลี่ยงการลงทุนใดๆ ในช่วงนั้น

ดังนั้นการลงทุนที่ใช้อารมณ์จะทำให้คุณสูญเสีย, ทำลายผลตอบแทนที่คุณสะสมมา และทำให้คุณหาทางออกไม่เจอค่ะ