แนวทางการลงทุนในช่วงภาวะเงินเฟ้อ
ในความเป็นจริงแล้วการลงทุนในช่วงภาวะเงินเฟ้อขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละบุคคล คุณเพียงจะต้องยอมรับ และอดทนกับสถานการณ์นี้ให้ได้ ในบทความนี้เราจะคุณในเรื่องของเทคโนโลยีทางการเงิน ยกตัวอย่างเช่น การบริหารจัดการเงินทุนเพิ่มเติม เป็นต้น ภาวะเงินเฟ้อส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ มูลค่าของเงินลดลงนั่นเอง เพราะฉะนั้นนักลงทุนควรลงทุนในสินทรัพย์มีตัวตนมากกว่าที่จะนำเงินไปใช้เสียเปล่าในช่วงที่มีการเกิดภาวะเงินเฟ้อ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณลงทุนในกองทุนดัชนีหรือเราเรียกว่า ETF นั่นก็หมายความว่า คุณลงทุนในสินทรัพย์ที่แท้จริง หรือเราเรียกว่า วัตถุดิบ ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเศรษฐกิจชะลอตัว อุปสงค์ลดลง ความกดดันราคาวัตถุดิบลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง ราคาวัตถุดิบก็ดิ่งลงเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการมีสภาพคล่อง เพื่อรับมือกับความคล่องตัวสำคัญกว่าการฝังเงินในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น, ราคาวัตถุดิบ หรืออสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น ราคาก็จะอยู่ภายใต้แรงกดดันขาลง และหากอัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเหมือนเช่นในปัจจุบันนี้ ราคาก็จะพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ถ้าคุณมีเงินเหลือเก็บ คุณก็จะมีโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ด้วยราคาที่ถูกลง เพราะฉะนั้นการพยายามลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งจึงไม่ใช่วิธีที่ควรทำ ในช่วงของภาวะเงินเฟ้อนี้
อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากในปีนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีของธนาคารเพิ่มขึ้น 3% ผลิตภัณฑ์อัตราดอกเบี้ยที่ขายโดยบริษัทหลักทรัพย์จ่ายดอกเบี้ยมากกว่า 4% เพราะฉะนั้นเราจึงอยากแนะนำให้คุณหาโอกาสในการลงทุนในตลาดสินทรัพย์ที่ ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยที่มีราคาสูง หรืออาจจะเป็นสินทรัพย์ทางการเงินระยะสั้น ถึงแม้ว่า ภาวะเงินเฟ้อจะส่งผลให้มูลค่าของเงินลดต่ำลง แต่สุดท้ายแล้ว ณ เวลานี้ เงินสดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในแง่ของการลงทุน