ความฝันนั้นมีอายุ: เราตัวโตขึ้น แต่ความฝันกลับเล็กลง?
คุณจำความฝันแรกของตัวเองได้ไหมครับ ผมเชื่อว่าหลายๆคนก็ยังจำได้ บางคนอาจจะลืมไปบ้าง หรือบางคนเลือกที่จะฝังกลบมันเอาไว้ในความทรงจำ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อยากให้เราลองมองตัวเองเลยตอนนี้ แล้วไปเทียบกับความฝันแรกสุดที่คุณสามารถจดจำได้ ว่าตัวเราในขณะนี้ กับตัวเราที่เคยวาดฝันเอาไว้ ยังคงเป็นสิ่งเดียวกันอยู่หรือไม่ ผมมั่นใจว่า ไม่ใช่ทุกคนหรอครับ ที่สามารถทำตามความฝันนั้นเป็นจริงได้ เพราะบางคน”เลือก” ที่จะเปลี่ยนความฝัน แต่บางคนก็ต้องจำห่างไกลจากความฝันนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ร่างกายโตขึ้น แต่ความฝันกลับเล็กลง?”
มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ไม่สามารถเดินตามเส้นทางที่วาดฝันเอาไว้ได้ ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยใดก็ตาม ตอนนี้คุณอาจจะฝันว่า โตขึ้นมาจะเป็นศิลปิน เป็นคนมีชื่อเสียง เป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างที่สุด ทำงานดีๆ ร่ำรวย และใช้ชีวิตอย่างแสนสบายไปจนถึงวันที่ร่วงลงสู่เชิงตะกอน อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถวงการหรือลิขิตอนาคตของเราได้อย่างแม่นยำ พอเราโตขึ้น โลกที่เคยไร้เดียงสาสมัยยังเป็นเด็กนั้น ฝันว่ามดงามของโลกก็เริ่มน้อยลง พวกเราได้เรียนรู้ และสัมผัสกับความเป็นจริงของโลกใบนี้ ว่าทุกสิ่งนั้นไม่ได้ง่ายดายเหมือนที่วาดฝันไว้
วันเวลาที่ผ่านไป ล้วนเป็นสิ่งที่เอาคืนมาไม่ได้ หน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบเงินเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน และนั่นก็คือความโหดร้ายของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ด้วยเหตุนี้ หลายๆคนจึงไม่สามารถเสียเวลาไปกับการทำตามความฝันในวัยเด็กได้ เราเติบโตขึ้น แต่ความฝันกลับค่อยๆเล็กลง จากที่เคยหวังเป็นคนโด่งดัง อาจจะลดลงเป็นเพียงแค่การมีงานทำและประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน และหากยังไม่เป็นจริงอีก ความฝันของเราก็จะถูกตัดทอนให้เล็กลงเรื่อยๆ จนอาจเหลือเป็นเพียงแค่การมีงานทำและมีเงินใช้ไปวันๆเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ สำหรับหลายๆคน จึงกลายเป็นว่า เราตัวโตขึ้น กับความฝันกับเล็กลงนั่นเองครับ
“ความฝันนั้นมีอายุ”
ประโยคที่ว่า ไม่มีคำว่าสายสำหรับการทำตามความฝันนั้น เป็นประโยคที่แม้ว่าจะเป็นการมองโลกในแง่ดีมากๆก็จริง แต่ผมกลับไม่ค่อยศรัทธากับมันนัก ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้สนับสนุนให้ทุกคนทำตามความฝันนะครับ แต่เป็นเพราะผมมองว่าทุกๆความฝันนั้น ล้วนมีอายุของมันครับ
คุณเคยอ่านฉลากของกินในประเทศญี่ปุ่นไหม? ผลิตภัณฑ์หลายๆตัวของญี่ปุ่น จะมีการบอกอายุของผลิตภัณฑ์ไว้สองแบบ คืนหนึ่ง อายุที่ได้ล่วงเลยวันที่ดีที่สุดสำหรับการบริโภคไปแล้ว แต่ก็ยังสามารถรับประทานได้อยู่ หรือที่เรียกว่าวันหมดอายุอร่อย ส่วนวันหมดอายุแบบที่สอง ก็คือการหมดอายุที่บ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นเสีนแล้ว ไม่สามารถทานได้แล้วนั่นเอง
สำหรับผมแล้ว และในความฝันนั้นเปรียบเสมือนสิ่งที่มีวันหมดอายุอร่อย คุณลองนึกภาพดูง่ายๆว่า หากความฝันในวัยเด็กของเรา คือการได้ออกไปเที่ยวรอบโลก การได้เป็นนักร้อง นายแบบ นางแบบ ความฝันจำพวกนี้ คือความฝันที่เกี่ยวข้องกับสังขารร่างกายของมนุษย์ครับ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำตามความฝันเหล่านี้ ก็คือเวลาที่เราเป็นวัยรุ่น หากเรามาเริ่มเดินทางรอบโลกตอนอายุมาก เราจะต้องเจอกับปัญหาด้านสุขภาพมากมาย นั่นก็เป็นเพราะว่า ช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของเราได้ผ่านไป อย่างไม่อาจหวนคืนมาได้แล้วนั่นเอง
สำหรับผม อาจจะเรียกได้ว่าผมโชคดีก็ได้ ทำไมจะคุ้นเคยเปิดไว้ว่าอยากเป็นนักเขียน ระหว่างทางอาจจะล้มลุกคลุกคลานไปบ้าง และมีหลายครั้ง พี่ผมจำต้องทำสิ่งอื่นเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เช่น การทำงานบริษัท การเทรด Forex อันเป็นอาชีพหลักของผมในตอนนี้ ผมเริ่มต้นมาจากคนที่ไม่เคยชอบตัวเลข เราไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะต้องมาเป็นนักเทรด Forex แต่ก็เพราะว่าการเทรด Forex นี่แหละ ที่ทำให้ผมสามารถเติมเต็มความฝันในวัยเด็กได้ เพราะการเป็นนักเทรดไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ ทำให้ผมมีเวลาว่างมากเพราะจะมาเขียนบทความหรือหนังสือ ทำให้ความฝันในวัยเด็กที่อยากเป็นนักเขียนนั้น กลายเป็นสิ่งใดเสียที แม้ว่าจะเป็นในช่วงที่ผมอายุค่อนข้างมากแล้วก็ตาม
โดยสรุปแล้ว ผมมองว่า ความฝันมีอายุของมันครับ หากว่าเราสามารถทำมันสำเร็จในช่วงวัยที่เหมาะสม นั่นจะเป็นการทำให้ฝันเป็นจริงอย่างสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ที่ทุกคน จะสามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้ในเวลาอันสมควร ตามอย่างที่ผมได้กล่าวไว้ในข้างต้นว่า เราหลายๆคนต่างมีภาระต้องรับผิดชอบมากมายเกินกว่าจะโฟกัสในการทำตามความฝันอย่างเดียว ดังนั้น กว่าที่จะทำตามความฝันสำเร็จ งั้นก็อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เลยวัยอันรุ่งโรจน์ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ได้ทำความฝันให้เป็นจริงตอนอ่ยุยังน้อย แต่ผมก็ดีใจที่อย่างน้อยมันก็เป็นจริงครับ หากใครมีโอกาสก็ควรลองดูสักครั้ง เพื่อที่จะทำตามความฝันให้สำเร็จ ผมคิดว่า ไม่มีใครหรอกครับที่สามารถปล่อยวางความฝันของตัวเองไปได้ง่ายๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่ปล่อยไปยาก เป็นสิ่งที่เราปรารถนา และเป็นสิ่งที่เราอยากทำให้เป็นจริง มันจึงเป็นสิ่งที่เรียกว่าความฝันนั้นเอง