เป็นติ่งเกาหลีใช้เงินเท่าไหร่ แล้วจะหาเงินมาจากไหนได้บ้างนะ?
ไม่คิดว่าวันหนึ่งผมจะได้มาทำบทความเกี่ยวกับการเป็นติ่งเกาหลีครับ แต่เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ดูซีรี่ย์เรื่องหนึ่งที่คิดว่าวัยรุ่นหลายคนก็คงรู้จัก กับเรื่อง Her Private Life สารภาพตามตรงว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาดูซีรีย์เกาหลีครับ เมื่อก่อนเวลาผมทำงานประจำนั้นก็แทบไม่มีเวลาว่างมาดูซีรี่ย์ยาวๆพวกนี้ แต่พอผมหันมาเทรด Forex เต็มตัว ผมก็มีเวลาว่างมากขึ้น ทว่าปีแรกๆก็เพียงดูซีรีย์จีนกำลังภายใน กับซีรีย์ฝรั่งเท่านั้น แต่พอดูจนหมดแล้ว ก็เหลือเวลาว่างที่ไม้รู้จะทำอะไรดี ก็เลยเป็นที่มาของการที่ผมไปดูซีรีย์เกาหลีเรื่องนี้นั่นเองครับ
Her Private Life เป็นเรื่องราวของนางเอกซึ่งทำงานเป็นภัณฑารักษ์ในแกลอรี่ภาพ แต่เบื้องหลังเธอมีชีวิตส่วนตัวที่เป็นแฟนคลับเกาหลีตัวยง หรือที่เรียกกันว่าติ่งเกาหลีนั่นเองครับ
การให้ดูเรื่องนี้ทำให้ผมเปิดโลกกระทัดเกี่ยวกับแฟนคลับศิลปินอย่างมาก เพราะช่วงชีวิตของผมนั้น ไม่เคยชอบดารานักร้องคนไหนเป็นพิเศษ แต่ก็พอรู้มาบ้างจากลูกหลานของเพื่อนๆ ว่าแฟนคลับของศิลปินเกาหลีนั้น จะเรียกว่าติ่งเกาหลี แต่ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการเป็นติ่งเกาหลีนั้น มีเรื่องให้ต้องทำมากมาย ทั้งยังใช้เงินไม่ใช่น้อยอีกด้วย
เมื่อก่อนผมคิดว่า ค่าใช้จ่ายของการเป็นติ่งเกาหลี ก็มีเพียงแค่บัตรคอนเสิร์ตเท่านั้น แต่ความจริงนั้นไม่ใช่เลย ยังมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าต่างๆ ที่หากกดเข้าไปใน Twitter ก็จะเห็นมีขายอยู่มากมาย อีกครั้งการที่ไปดูคอนเสิร์ตก็ไม่ได้จบลงเพียงแค่ค่าตั๋วหรือค่าเดินทางเท่านั้น จากการที่ผมไปสอบถามหลานสาวที่เป็นติ่งเกาหลี เธอบอกว่า เพียงแค่ไปคอนเสิร์ตวง BTS (ที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า) เขาก็เสียเงินไปเกือบ 20000 เลยทีเดียว ค่าบัตรคอนเสิร์ต 7,000 ค่าแท่งไฟ (บง) อีกพันกว่าบาท ค่าสินค้า Official ที่ทางค่ายเกาหลีเอามาขาย และค่าของตกแต่ง พร๊อพสำหรับเชียร์ศิลปิน ต่างๆ อีกมากมาย บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นการฟุ่มเฟือย แต่ผมมองในแง่หนึ่ง ผมรู้สึกประหลาดใจและประทับใจอยู่เหมือนกัน ที่ติ่งเกาหลีนั้นมีความรักต่อศิลปินขนาดนี้ แสดงว่าตัวศิลปินก็คงมีดีไม่น้อยเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม กับค่าใช้จ่ายในระดับนี้ ผมก็สงสัยว่าแล้วเด็กที่เป็นติ่งเกาหลีนั้นเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ?
เรื่องนี้ผมเองก็ไปถามหลานมาเหมือนกัน แต่รายนั้นทางบ้านเขารวยครับก็เลยไม่ซีเรียสอะไรมาก แต่หลานผมก็บอกว่า บางคนก็ทำงานพิเศษ บางคนก็เก็บจากค่าขนม หรือบางคนก็ทำสินค้าอยู่กับศิลปินหรือที่เรียกว่าของแฟนเมดออกมาขาย ทั้งยังเปิด Twitter ให้ผมดูสินค้าเหล่านั้นด้วย(เวลาหลานพูดถึงเรื่องติ่งเกาหลีนี่ดูกะตือรือร้นม่กครับ เชื่อเลยว่าชอบมากจริงๆ) ซึ่งผมก็ประทับใจนะครับว่า สินค้าหลายๆอย่างก็ออกแบบ และทำออกมาได้สวยงามมากเลยทีเดียว
การเป็นติ่งเกาหลีถึงแม้ว่าจะใช้เงินเยอะ หรือบางคนอาจจะมองว่าไร้สาระ แต่สำหรับผมมองว่า ทุกอย่างก็มีสองด้านเสมอ ติ่งเกาหลีเองก็มีทั้งที่ดีและไม่ดี เด็กบางคนอาจจะคลั่งศิลปินมากเกินไป จนเกิดผลกระทบทางลบ แต่หลายๆคนก็ใช้กันเป็นสิ่งนั้นทำให้เกิดประโยชน์ เช่น การตั้งใจเรียนเพื่อทำให้พ่อแม่เห็นว่าการสิ่งนั้นไม่ได้ที่ส่งผลแย่ การออกไปหางานพิเศษทำ หรือการพัฒนาทักษะด้านการออกแบบ ตัดต่อวีดีโอ และบางคนก็ไปฝึกภาษาเกาหลีจนกลายเป็นล่ามได้เลยครับ ดังนั้น เราไม่สามารถเหมารวมได้ว่าติ่งเกาหลีทั้งหมดเป็นเด็กไม่ดี เพราะการจะเป็นคนดีหรือไม่ดีนั้นมันขึ้นอยู่กับรายบุคคลนั่นเอง
สำหรับผมก็ลองคิดดูเล่นๆนะครับ ว่าเป็นผมยังคงเป็นเด็กวัยรุ่น และยังเป็นติ่งเกาหลีอีกด้วย ผมจะทำงานอะไรให้ได้เงินไปใช้จ่ายเพื่อติดตามศิลปินดี เพราะทักษะศิลปะผมเรียกว่าไงว่าติดลบ คิดไปคิดมาก็คงจะเป็นการเทรดฟอเร็กซ์นี่แหละครับ เพราะทั้งเทรดไปด้วย เรียนไปด้วย แล้วก็ติ่งไปด้วยได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่ก็เป็นเพียงแค่การคิดไปเรื่อยเปื่อยครับ เพราะ แล้วว่าจะมีคำกล่าวว่า การติ่งนั้นไม่ขึ้นอยู่กับอายุก็ตาม แต่สำหรับผม พอมานั่งคิดถึงภาพตัวเองเป็นติ่งเกาหลี ชายวัยกลางคน ผอมแห้ง สวมแว่น กำลังโบกแท่งไฟในงานคอนเสิร์ต ผมก็รู้สึกว่าจะถูกข่มขืนไปหน่อยครับ แต่ผมไม่ได้บอกว่าคุณไม่สามารถติ่งได้นะ เพราะแต่ละคนก็มีความชอบไม่เหมือนกันและก็มีสิทธิ์ที่จะชอบด้วย เหมือนกับผมที่ถึงแม้จะไม่ใช่ติ่งเกาหลี แต่ก็เป็นติ่ง Forex ครับ 555
