Love Myself : รักตัวเอง หรือ เห็นแก่ตัว?
สวัสดีครับทุกท่าน ผมรู้สึกว่าปัจจุบันนี้ เทรนด์ของการรักตัวเอง หรือ Love Myself นั้น กำลังเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากทั่วโลกเลยก็ว่าได้
สำหรับตัวผมนั้น ได้ยินเรื่องของการรักตัวเองครั้งแรกจากหลานสาวครับ ท้าวความกลับไปก่อนว่าผมมีหลานสาวอยู่คน แกเป็น “ติ่ง” เกาหลีครับ หรือก็คือคนที่ชอบนักร้องนักแสดงเกาหลีนั่นเอง ซึ่งหนึ่งในวงโปรดของหลานผม ก็คือ BTS (ที่ไม่ใชารถไฟฟ้า) หรือ “บังทันโซยอนดัน” นั่นเองครับ โดยศิลปินกลุ่มนี้ได้ออกอัลบั้มมาภายใต้ชื่อ Love Yourself ที่มีการส่งเสริมเรื่องของการรักตัวเอง และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้จักประโยคนี้จากหลานสาวที่เป็น “อาร์มี่” (แฟนคลับ) วง BTS ครับ โดยที่แม้ว่าตัวผมจะไม่ใช่คนที่ชื่นชอบดารานักร้องเกาหลี แต่ก็ยอมรับว่าคอนเซปต์และข้อคิดหลายๆอย่างของวงนี้นั้นเข้าท่าที่เดียว โดยเฉพาะเรื่องของการรักตัวเองครับ
ทำไมการรักตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ดี?
ทุกวันนี้ มีคนมากมายบนโลกที่เจ็บปวดจากการที่รักตัวเองน้อยเกินไปครับ หลายๆคนพยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่ออะไรสักอย่าง เช่น ความรัก เพื่อจะได้ความรักบางคนนั้นเปลี่ยนตัวเองในทุกๆเรื่อง รับฟังทุกเสียงจากคนอื่นแล้วมาทำตาม โดยที่เรื่องบางเรื่องเราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน
เช่น การที่คนที่เราชอบนั้นชอบทานอาหารญี่ปุ่น แต่คุณไม่ชอบ คุณก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองให้ชอบ คุณชอบฟังเพลงเกาหลี แต่คนที่คุณชอบเกลียดเพลงเกาหลี คุณก็ไม่จำเป็นต้องเลิกฟัง หรือบางคนบอกว่าคุณตาไม่สวย คางสั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องไปทำศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงมัน
เรื่องบางเรื่องอย่างพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมที่เรามักจะทำไปด้วยความเคยชิน สิ่งเหล่านี้นั้นเปลี่ยนแปลงได้ แต่ในทางกลับกัน เรื่องหลายๆอย่างที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา เราก็ไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนเพียงเพื่อจะได้ความรักหรือการยอมรับจากคนเหล่านั้นครับ เพราะหากคุณทำเช่นนั้นแล้ว สุดท้ายคุณก็จะหลงลืมไปว่า จริง ๆ แล้วตัวเองเป็นใครกันแน่? และคนเหล่านั้นก็จะไม่ได้รักหรือยอมรับคุณที่เป็นตัวคุณจริงๆ แต่เป็นตัวตนปลอมๆที่คุณสร้างขึ้นเพื่อเอาใจพวกเขานั่นเอง ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในเรื่องของการไม่รักตัวเองครับ และการกระทำอันไม่รักตัวเองเหล่านี้ นอกจากจะทำให้เราเจ็บปวด ยังทำให้คนที่รักและห่วงใยเราจริงๆเจ็บปวดไปด้วย
รักตัวเอง หรือ เห็นแก่ตัว?
ประเด็นนี้น่าจะได้รับการตั้งข้อสงสัยอยู่บ่อยๆครับ หลายๆคนกลัวว่า การรักตัวเองนั้น ก็เท่ากับเราเป็นคนเห็นแก่ตัว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย
ลองสังเกตุไหมครับว่า บางครั้งเราก็กลายเป็นคนที่อะไรก็ได้ มีอะไรใครสั่ง ใครให้งานมาเราก็ทำโดยไม่ปริปากสักคำ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว เราเองก็มีงานและสิ่งที่ต้องทำเช่นกัน แต่เราก็ฝืนรับงานต่างๆจากคนอื่นมาทำอีก แม้นั่นจะหมายถึงเราอาจต้องสูญเสียเวลาของตัวเองไป หรือกระทบต่องานส่วนตัวของเราก็ตาม เพราะเรากลัวว่าจะถูกมองว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในอุปนิสัยไม่ดีของการที่เราไม่รักตัวเองครับ
การรักตัวเอง หมายถึง การที่เรารัก และเคารพตัวเอง ในสิ่งที่เราชอบ หรือสิ่งที่เราเป็น โดยตั้งอยู่บนความไม่เดือดร้อนหรือไปเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ในขณะที่เห็นแก่ตัว คือการที่เราเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนแล้วไประรานให้ผู้อื่นเดือดร้อนนั่นเองครับ
ดังนั้น การรักและเคารพตัวเองจึงไม่เท่ากับการเห็นแก่ตัว และหากว่าทุกคนในโลกนั้นต่างก็รักตัวเอง สังคมก็จะปราศจากการเอารัดเอาเปรียบกันครับ
มีคำกล่าวว่า หากเราไม่รักตัวเอง แล้วเราจะไปรักคนอื่นได้อย่างไร ดังนั้น ไม่ว่าจะเรื่องไหนๆ โดยเฉพาะเรื่องงาน อย่าหักโหมจนสุขภาพย่ำแย่ เพราะหากคุณไม่รักตัวเอง ทำงานหนักจนป่วยขึ้นมา เงินไม่สามารถซื้อสุขภาพคืนมาได้ครับ ทั้งยังอาจทำให้ผู้อื่นเป็นห่วงได้อีกด้วย
เอาล่ะ วันนี้ผม Love Myself แล้ว คุณล่ะ Love Yourself บ้างรึยัง?