เทรนด์การตลาดออนไลน์แห่งปี 2019
เศรษฐกิจของปีนี้ค่อนข้างซบเซาทีเดียวครับ หลาย ๆ แบรนด์ต่างก็ทุ่มเทให้กับการทำการตลาดอย่างเต็มที่เพื่อหวังถีบตัวขึ้นจากสถานการณ์ความซบเซาเช่นนี้ ซึ่งความร้อนแรงของดิจิตัลมาร์เก็ตติ้งก็พุ่งสูงสวนทางกับความซบเซาของโลกออฟไลน์และนี่ก็ผ่านมาจนเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2019 แล้ว เรามาดูกันดีกว่าครับว่า เทรนด์การตลาดออนไลน์แห่งปี 2019 ที่คุณไม่ควรพลาด มีอะไรบ้าง
Meaningful Content
ปัจจุบันนี้มีแบรนด์ต่าง ๆ มากมายอยู่ในโลกออนไลน์ครับ และนั่นหมายถึงการที่แต่ละวันจะมีคอนเทนต์จำนวนมากถูกผลิตและแผยแพร่สู่โลกออนไลน์ ด้วยเหตุนี้ ท่ามากลางแบรนด์นับล้านในโลก สิ่งที่จะทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นขึ้นมาได้ ก็คือการสร้างคอนเทนต์ที่มีพลัง หรือ “Meaningful Content” นั่นเอง
Meaningful Content เป็นการทำคอนเทนต์ที่เข้าใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งถึงตัวตนของผู้บริโภคระดับเฉพาะบุคคล เพื่อทำให้ผู้บริโภคเห็นว่าคอนเทนต์ และสินค้าของแบรนด์มีความหมาย มีประโยชน์ต่อชีวิตของเขาอย่างไร โดยผลิตคอนเทนต์ขึ้นตามหลักการ “Right Insight, Right Action” นั่นเองครับ
Micro-Moments ทุกโมเมนต์แห่งการตลาด
ในอดีจนั้น ช่องทางการรับข่าวสาร หรือเสพคอนเทนต์ของคนเรามีจำกัด เช่น จากคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ และวิทยุ แต่ปัจจุบันนี้ที่สมาร์ทโฟนเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตของเรามากขึ้น และยังทำให้เราสามารถรับข่าวสารจากโลกออนไลน์ได้แทบจะตลอดเวลา จากทั่วทุกมุมโลก มันก็ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกดิจิตัลให้อยู่แค่บนปลายนิ้วของเราครับ
และการที่คนเราสามารถเข้าถึงข่าวสารและโลกอินเทอร์เน็ตได้ทุกเวลา จึงทำให้เกิด Moments หรือ ช่วงเวลา ขึ้นมา ซึ่งจะเกิดขึ้นกับคนเราวันละหลายร้อยครั้ง ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่คนเราต้องการจะรู้หรือทำอะไรสักอย่าง เราก็มักจะอยากตอบสนองความต้องการเหล่านั้นให้ได้ในทันที แน่นอนว่าทุกวันนี้พอเราอยากรู้เรื่องอะไรสักอย่าง สิ่งที่หลาย ๆ คนจะต้องทำก็คือการคว้าสมาร์ทโฟนขึ้นมาค้นหาคำตอบครับ
ด้วยเหตุนี้ ทาง Google จึงให้คำนิยาม “ช่วงเวลา” เหล่านั้นไว้ว่า Micro-moments หรือ “ช่วงเวลาที่ผู้บริโภคสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้นด้วยสมาร์ทโฟนได้ในทันทีทันใด” นั่นเอง
ซึ่งเรื่องของ Micro-Moment นี่สำคัญหับนักการตลาดออนไลน์มากเชียวล่ะ เพราะเวลาที่คนเราเกิด Moment เหล่านี้ขึ้น ตัวลูกค้าจะมีความคาดหวังในตัวแบรนด์ และความต้องการสูงมาก ดังนั้น เพื่อเปลี่ยนให้โมเม้นท์ที่ผู้บริโภคต้องการค้นหาข้อมูลสินค้าต่าง ๆ ให้กลายมาเป็นยอดขายของเรา อย่างแรกเลยคือแบรนด์ของเรานั้นจะต้องจะต้องมีคอนเทนต์ในรูปแบบของ Mobile Friendly ไม่ว่าจะทั้งบนโซเชี่ยลมีเดีย หรือเว็บไซต์ก็ตาม เพราะอย่างที่กล่าวไปว่าทุกวันนี้คนเราเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนมากเสียยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์ ดังนั้น ลองจินตนาการถึงช่วงเวลาที่คุณอยากซื้อของชิ้นหนึ่งมาก ๆ และใช้โทรศัพท์หาข้อมูลเกี่ยวกับมัน คุณคงไม่อยากซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่มีหน้าเว็บพัง ๆ เพราะไม่รองรับการเข้าถึงผ่านโทรศัพท์หรอก จริงไหมครับ
Nemo Marketing
การตลาดในทุกวันนี้เปลี่ยนไปมากแล้วครับ เราจะต้องเข้าใจเทรนด์ตรงนี้เสียก่อน ว่านักการตลาดยุคดิจิทัล ต้องคิดเร็ว ทำเร็ว และขยับตัวเร็ว นี่คือโลกแห่งการแข่งขันที่คุณจะต้องว่องไว และในความว่องไวนั้นต้องประกอบไปด้วยความถูกต้องอีกด้วย
เพราะในอดีตการทำโปรเจคหนึ่ง จะใช้เวลากว่าจะตกผลึกออกมาเป็นสินค้าใหม่ หรือแคมเปญการตลาดใหม่ แต่ปัจจุบัน เราอยู่ในยุคที่เทรนด์ต่าง ๆ ถือกำเนิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อผู้บริโภคเปลี่ยนเร็ว นักการตลาดต้องพร้อมจะรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอีกด้วย เปรียบได้กับปลาการ์ตูน ในเรื่อง Finding Nemo ที่เป็นปลาขนาดเล็ก แต่สามารถขยับได้ร็ว แตกต่างจากวาฬที่ตัวใหญ่ แต่ขยับช้านั่นเอง
Visual Content
เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับชาวเขียนหนังสือที่ต้องยอมรับครับว่า ปัจจุบันนี้คนเราอ่านหนังสือกันน้อยลงจริง ๆ ตัวปีกษรไม่สามารถดึงดูดผู้คนได้อีกต่อไป ดังนั้น อีกหนึ่งเทรนด์การตลาดออนไลน์แห่งปี 2019 ที่มาแรง ก้คือการทำคอนเทรนต์ประเภทภาพ หรือวีดีโอ ที่เราเรียกกันว่า Visual Content นั่นเองครับ โดยจากสถิติพบว่า 1 ใน 3 ของ Online Activities หมดไปกับการดูวีดีโอ ดังนั้น สื่อภาพ และวีดีโอ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำการตลาดออนไลน์ในยุคนี้
และนี่ก็คือเทรนด์การตลาดออนไลน์แห่งปี 2019 ที่คนทำแบรนด์ หรือนักการตลาดน่าจะรู้ไว้ครับ ขอบคุณข้อมูลจากเว็บแม็กนีโต้แลปส์ครับผม