การคาดการณ์ประเทศไทยหลังโควิด ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร?
การแพร่ระบาดของ Covid-19 นั้นกินเวลามาอย่างยาวนานครับ อันที่จริงแล้ว ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนในตอนแรกนั้น ไม่คาดคิดว่าวิกฤติโรค Covid-19 หรือไวรัสโคโรน่านั้น จะกินระยะเวลายาวนานขนาดนี้ครับ อีกทั้งประกอบกับเราต่างขาดการเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่มาอย่างไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้ จึงไม่แปลกที่หลายคนต้องเผชิญกับความตึงเครียด โดยเฉพาะทางด้านการเงินครับ
และท่ามกลางความไม่แน่นอนซึ่งบีบบังคับให้เราต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่นั้น เราคงต่างสงสัยกันใช่ไหมครับ ว่าแล้วหลังจากนี้ต่อไป ประเทศไทยหลังโควิดจะเป็นอย่างไรบ้าง เรามาดูการวิเคราะห์จากเหล่าผู้เชี่ยวชาญกันครับ
ความถดถอยที่เห็นได้ชัด
ก่อนจะพูดถึงเรื่องประเทศไทยหลังโควิด ขอเท้าตวามกลับไปก่อนหน้านี้สักหน่อยนะครับ โดยหากเรามองเศรษฐกิจในภาครวมล่ะก็ เราจะเห็นได้ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาภาคส่วนของการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศครับ และแน่นอนว่าการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ซึ่งทำให้สถานที่ท่องเที่ยวต้องปิด ผู้คนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติก็ถูกจำกัดการท่องเที่ยว เม็ดเงินที่เคยสะพัดพลันหยุดชะงัก และนั่นส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างร้ายแรงครับ
นอกจากนี้ ประกอบกับสภาวะเงินฝืดที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และการเติบโตทางเศรษฐกิจก่อนหน้าที่จะเกิดไวรัสก็ไม่ได้สูงมากอยู่แล้ว เมื่อเจอกับวิกฤติครั้งนี้ขึ้น น้ำหนักของความฝืดเคืองและความคคงเครียดจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยนักวิเคราะห์หลาย ๆ สำนักคาดการณ์ว่า แนวโน้มว่าความฝืดเคืองของเศรษฐกิจจะดำเนินต่อไปตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้ และอาจจะยาวไปถึงปีหน้าเป็นอย่างน้อยครับ
ในเรื่องของการส่งออกเองก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าเช่นเดียวกัน เพราะขณะที่เกิดการระบาดนั้น หลาย ๆ โรงงานที่ต้องหยุดชะงัก รวมไปถึงดีมานด์ต่อสินค้าทั่วโลกที่ลดลง การยำเข้า-ส่งออกที่ต้องตรวจตราอย่างเข้มงวดมากขึ้น ก็ทำให้รายได้มวลรวมของประเทศถดถอยลงเช่นเดียวกันครับ แต่ในส่วนนี้คาดว่าจะมีการฟื้นตัวที่เร็วกว่าภาคของการท่องเที่ยว
ประเทศไทยหลังโควิดจะเป็นอย่างไร แล้วเราควรทำอย่างไร?
ในขณะนี้ ประเทศไทยยังคงมีความระแวดระวังการระบาดระลอกสองของไวรัสโคโรนา เพื่อป้องกันความบอบช้ำเพิ่มเติมหากเกิดการระบาดขึ้นมาอีกระลอก โดยอย่างน้อยที่สุดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอันเป็นหัวใจสำคัญของเศรษญกิจภายในประเทศถึงราว 20% ก็ไม่น่าจะฟืนฟูกลับไปสู่ระดับก่อนติดเชื้อจนถึงปีหน้าเป็นอย่างเร็วที่สุด
ในขณะที่ทางรัฐบาลเองก็อาจจะพิจารณานโยบายทางการเงินที่จะออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังฝืดเคืองอยู่ในขณะนี้ เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ย และมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณครับ อย่างไรก็ตาม เราไม่คสรคาดหวังการช่วยเหลือจากรัฐบาลมากนัก เพราะต่อให้ออกนโยบายใดมาก็ตาม ก็ไม่อาจช่วยให้เราสามารถดำรงชีวิตได้อย่างราบนื่นยั่งยืนเท่ากับที่เราเตรียมตัวเองให้พร้อมครับ
ตอนนี้เรารู้แล้วว่าแทบทุกสำนักต่างมองว่าประเทศไทยหลังโควิดนั้น เศรษฐกิจจะยังคงฝืดเคืองและไม่ฟื้นกลับมาโดยง่าย ดังนั้น คำถามก็คือ แล้วเราควรจะใช้ชีวิตในประเทศไทยหลังโควิดอย่างไรดี? พบกับคำตอบได้ในบทความหน้าครับผม ขอให้ทุกท่านเข้มแข็ง และสุขภาพดีกันถ้วนหน้านะครับ