การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามอาจจะชะลอตัวในปีนี้

การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามอาจชะลอตัวในปีนี้และอาจไม่บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยมีสัญญาณเตือนว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนามกำลังตามรอยจีนที่กำลังประสบปัญหาสภาพคล่อง

Bloomberg และ Financial Times (FT) เผยเมื่อวันที่ 28 ว่า เวียดนามอาจไม่บรรลุเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่ 6.5% ในปีนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เข้าสู่ภาวะถดถอยเนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงเนื่องจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจของเวียดนามที่ขึ้นอยู่กับการส่งออกเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามปริมาณการส่งออกลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันจนถึงเดือนกรกฎาคม ถือเป็นการตกต่ำยาวนานที่สุดในรอบ 14 ปี อัตราการเติบโตของ GDP ในครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ 3.72% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ช้าที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ยกเว้นในปี 2563 และ 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่โลกได้รับผลกระทบจากโควิด 19

ในขณะเดียวกันสภาพงานก็ย่ำแย่ ซึ่งมีสาเหตุมาจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง, ความเข้มงวด และเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย จากข้อมูลของกระทรวงแรงงานเวียดนาม คนงาน 280,000 คนถูกเลิกจ้างในช่วงห้าเดือนแรกของปีนี้ ในส่วนของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มมีจำนวนการเลิกจ้างมากที่สุด โดยมีการเลิกจ้าง 70,000 คน และตามมาด้วยการเลิกจ้างงานของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (45,000 คน) และการผลิตรองเท้า (31,600 คน)

แม้แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็ยังหดตัว จากข้อมูลของ FT พบว่า พันธบัตรระหว่างประเทศที่ออกโดยผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนามเมื่อเร็ว ๆ นี้มีการซื้อขายน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของพันธบัตรที่ออก พันธบัตร Nova Land มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ที่จะครบกำหนดในปี 2569 ลดลงเหลือ 32 เซนต์ต่อดอลลาร์ ในขณะที่พันธบัตร BIM Land มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ที่จะครบกำหนดในปีเดียวกันนั้นลดลงเหลือ 52 เซนต์ต่อดอลลาร์

สาเหตุหลักมาจากรัฐบาลเวียดนามมีภาระหนี้ และการปราบปรามการต่อต้านการทุจริตที่จำกัด นับตั้งแต่การจับกุมนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ Tsoong Mi-ran เมื่อปีที่แล้ว การดำเนินการของธนาคาร (การถอนเงินจำนวนมาก) ได้เกิดขึ้นที่ Saigon Commercial Bank และส่งผลกระทบต่อพันธบัตรด้านอสังหาริมทรัพย์, FT กล่าว ราคาพันธบัตรดิ่งลง ส่งผลให้นักพัฒนารายย่อยและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญกับการล้มละลาย และโครงการก่อสร้างหลายพันโครงการถูกระงับ ในขณะที่ความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์ก็ลดลงเช่นกัน เนื่องมาจากนักลงทุนจำนวนมากกังขาถึงความสามารถของนักพัฒนาในเรื่องของการระดมทุนนั่นเอง