ความต้องการน้ำมันของจีนกำลังจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า
ประเทศจีน ผู้นำเข้าน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของโลก คาดว่าความต้องการน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 4% ในช่วงครึ่งปีหน้า The Organization of Petroleum Exporting Countries (OPEC) คาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันของจีนจะเพิ่มขึ้น 3.2% ในครึ่งปีหน้าเมื่อเทียบกับปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 16.41 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 3.9% ในปีหน้า หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 17.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นปริมาณการใช้น้ำมันของจีนลดลง เนื่องจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดระหว่างปี 2563 ถึง 2565 อย่างไรก็ตามในปีนี้คาดว่าความต้องการน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น และทำสถิติสูงสุดใหม่ การเติบโตของความต้องการน้ำมันของจีนในปีนี้ โดยผ่านการคาดการณ์ของ OPEC อยู่ที่ 7.6% และ IEA ที่ 12.1%
ในรายงานล่าสุด OPEC เผยว่า การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันของจีนกำลังอ่อนตัวลง “เกินจริง” และคาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันของจีนจะคิดเป็นสัดส่วน 24.6% ของการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในช่วงครึ่งปีหน้า
Wood Mackenzie, Ristad Energy and Energy Spect บริษัทให้คำปรึกษา คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันของจีนจะเติบโตที่ 3.7%, 4.0% และ 4.4% ตามลำดับในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า Reuters คำนวณการเติบโตประจำปีโดยใช้ข้อมูลของ IEA และเผยว่า การเติบโตของความต้องการน้ำมันของจีนโดยเฉลี่ย 4.5% จากปี 2559 ถึง 2562 และจะลดลงเล็กน้อยในปีหน้า
ความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของจีนคาดว่าจะเพิ่มความต้องการแนฟทาและน้ำมันเครื่องบิน ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายและเป็นวัตถุดิบในภาคปิโตรเคมี Lin Ye นักวิเคราะห์จาก Rystad Energy คาดการณ์ว่า ความต้องการแนฟทาจะเพิ่มขึ้น 11% เนื่องจากความต้องการปิโตรเคมีที่แข็งแกร่ง แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นในโรงกลั่นของจีนจะอ่อนตัวลงค่อนข้างมากก็ตาม
นอกจากนี้การจราจรทางอากาศระหว่างประเทศของจีนยังคงซบเซาอยู่ที่ 53% ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นความต้องการน้ำมันเครื่องบินจึงคาดว่าจะเติบโตขึ้น 28% เนื่องจากยังมีช่องว่างของความต้องการน้ำมันที่อาจขยายตัว
Wood Mackenzie คาดการณ์ว่า ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินจะลดลง 1% เนื่องจากอุปทานของรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และปริมาณการเดินทางลดลงหลังสิ้นสุดโควิด-19 ในขณะที่ Energy Aspect คาดการณ์ว่า น้ำมันดีเซลส่วนใหญ่ถูกใช้ในอุปกรณ์ก่อสร้างจะยังทรงตัวอยู่ เนื่องจากบริษัทต่างๆ ลดการก่อสร้างใหม่