จีนตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เป็นเวลา 5 เดือน
จีนได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (loan preference rate: LPR) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง เป็นระยะเวลา 5 เดือน นักวิเคราะห์เผยว่า ถึงแม้ว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเงินฝืด (ปรากฏการณ์ที่ราคาลดลงและกิจกรรมทางเศรษฐกิจซบเซา) จะเพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการไหลออกของเงินทุนอย่างจริงจังมากขึ้น
The People’s Bank of China คงระดับ LPR แบบหนึ่งปีไว้ที่ 3.45% และ 5 ปีที่ 4.20% ในวันที่ 22 ซึ่งเหมือนกับเดือนก่อนหน้า LPR คือ ค่าเฉลี่ยของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าคุณภาพสูงของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจริงๆ แล้วถือว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของจีน เนื่องจาก The People’s Bank of China ใช้ LPR เพื่อการตัดสินใจนโยบายเศรษฐกิจต่างๆ
จีนปรับลด LPR หนึ่งปีลง 0.1 เปอร์เซ็นต์เป็นครั้งแรกในรอบสองเดือนเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ปีที่แล้ว และไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ตั้งแต่เดือนกันยายน ในขณะที่ LPR สัญญา 5 ปีถูกระงับเป็นเวลา 7 เดือนติดต่อกัน ตลาดคาดการณ์ว่า LPR จะถูกตรึงไว้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยหนึ่งปีของกรอบการสนับสนุนสภาพคล่องระยะกลาง (MLF) ที่ประกาศเมื่อวันที่ 15 ถูกตรึงไว้ที่ 2.50 เปอร์เซ็นต์
วิกฤตเงินฝืดของจีนกำลังเติบโต โดยการเติบโตของราคาผู้บริโภคลดลงเป็นเวลาสามเดือนติดต่อกัน ณ เดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่มีการตีความว่า The People’s Bank of China ได้ระงับนโยบายผ่อนคลายทางการเงินไว้ชั่วคราว ในขณะที่โอกาสในการประกาศการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ในเดือนมีนาคมมีน้อยลงและความสามารถในการทำกำไรของธนาคารมีแนวโน้มลดลงมากขึ้น
แม้ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน (5.2%) เกินเป้าหมายของรัฐบาลที่ร้อยละ 5 ในปีที่ผ่านมา แต่นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า อัตราการเติบโตร้อยละ 5.2 ถือเป็นผลลัพธ์ที่น่าผิดหวัง โดยสังเกตได้จากการได้รับผลกระทบจาก “collaborative effect” เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการระบาดเกือบจะสิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งทำให้เศรษฐกิจของจีนกำลังดิ้นรนที่จะฟื้นตัวจากปัจจัยลบหลายประการ รวมถึงการตกต่ำของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น การหดตัวของตลาดในประเทศ และการลงทุนจากต่างประเทศที่ลดลง มากไปกว่านั้นตลาดคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะยังคงอยู่ที่ร้อยละ 4 ในปีนี้
