โรงงานของญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาการขึ้นอัตราภาษีของสหรัฐฯ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาประกาศให้สินค้าของจีนเสียอัตราภาษีใหม่ ซึ่งส่งผลให้โรงงานของญี่ปุ่นโดนผลกระทบนี้ด้วย
มากไปกว่านั้น มีสินค้าจำนวน 3,243 ถูกเรียกเก็บภาษีด้วยอัตราภาษีที่ 15% และสินค้าเหล่านั้นประกอบไปด้วย เสื้อผ้า, นาฬิกา, เครื่องถ่ายเอกสาร และเครื่องปริ้นซ์
การประสบปัญหาของโรงงานญี่ปุ่น
Uniqlo แบรนด์ชื่อดังของญึ่ปุ่น ซึ่งเป็นธุรกิจประเภทขายปลีก โดย Uniqlo มีฐานการผลิตส่วนใหญ่อยู่ที่ประเทศจีน และหลังจากที่ทางบริษัทมีการกระจายสินค้าไปยัง 52 ร้านทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคม และบริษัทสามารถทำยอดขายได้สูงถึง 90 พันล้านเย็น หรือ 847 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะในแถบอเมริกาเหนือ ซึ่งตัวเลขนี้เท่ากับ 5% ของยอดขายทั้งหมด ในปี 2018 และนี่ก็หมายความว่า การขึ้นอัตราภาษีของสหรัฐฯในครั้งนี้มีผลกระทบต่อบริษัทเป็นอย่างมาก
จนทำให้ตอนนี้บริษัทได้มองหาสถานที่ผลิตใหม่ในแถบเอเชีย อย่างเช่น เวียดนาม และกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า Uniqlo ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เนื่องจากวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน เพราะฉะนั้นการย้ายฐานการผลิตอาจเพิ่มต้นทุนในด้านการขนส่งวัตถุดิบให้สูงขึ้น
นอกจาก Uniqlo แล้ว เครื่องปริ้นซ์ และเครื่องถ่ายเอกสารเป็นจำนวนมากถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น อย่าง Kyocera โดยทางบริษัทมีแผนที่จะย้ายโรงงานผลิตไปยังประเทศเวียดนาม
โรงงานจากประเทศจีน ณ ตอนนี้ผลิตสินค้าไปยังอเมริกา ในขณะที่โรงงานในเวียดนามผลิตสินค้าส่งไปยังยุโรป และเป้าหมายหลักก็คือ จะมีการสลับโรงงานเหล่านั้นภายในสิ้นเดือนมีนาคม
ในเวลาเดียวกัน Seiko Holdings บริษัทผลิตนาฬิกาของญี่ปุ่นกำลังวางแผนที่จะย้ายโรงงานผลิตจากจีนไปยังญึ่ปุ่น และสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ราคาต่ำกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ
มากไปกว่านั้น Kasai Kogyo กำลังย้ายแม่พิมพ์สำหรับผลิตชิ้นส่วนประตูรถยนต์จากประเทศจีนไปยังสหรัฐอเมริกา และมีการคาดการณ์ว่าต้นทุนการเคลื่อนย้ายในครั้งนี้มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์
และถึงแม้ว่าโรงงานหลายโรงงานตัดสินใจที่จะย้ายฐานการผลิต แต่พวกเขาก็ยังคงประสบปัญหาต้นทุนจากการเคลื่อนย้ายและการขนส่งสินค้าค่ะ