ไวรัสโคโรน่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและมนุษยชาติอย่างไร?
1. ไวรัสโคโรน่าส่งผลต่อเศรษฐกิจในประเทศจีน
ผลกระทบของเศรษฐกิจของจีนอยู่ในระดับกลาง เรามาดูตัวอย่างกันค่ะ ในฮ่องกง Hang Seng Index ได้ลดลงถึง 9% ตั้งแต่เดือนมกราคม และในวันที่ 9 มีนาคม 2563 ราคาน้ำมันเบรนท์ได้ตกลงที่ $20.09 ต่อบาเรล ซึ่งตกลงจากเดือนมกราคมถึง 71% หรือจากราคา $70.25 นั่นเอง
เนื่องจากเกิดโรคระบาดนี้ไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้ความต้องการของผู้ซื้อและผู้ขายต่างก็ลดลง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ถดถอยอย่างน่าใจหาย ด้วยสาเหตุที่ประชาชนต้องอยู่ในบ้านของตน สายการบินขาดรายได้สูงถึง $113 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็สูญเสียรายได้ไปถึง $5 ล้านล้านดอลลาร์
ไวรัสตัวนี้ได้ส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง โดยในปี 2563 เศรษฐกิจโลกสูญเสียไปถึง $2 ล้านล้านล้านดอลลาร์ ทำให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจลดลงถึง 0.5%
สำหรับเศรษฐกิจจีนแล้ว สิ่งแรกที่ประเทศจีนได้รับผลกระทบก็คือ ยอดขายที่ตกลงถึง 80% ประเทศจีนมียอดส่งออกที่ตกลง 17.2% ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ Robabank ได้คาดการณ์ว่า GDP ในประเทศจะลดลง 1-2% ในระยะสั้นนี้
มณฑลหูเป่ยเกิดโรคระบาดขึ้นเช่นกัน ทำให้ GDP เพิ่มขึ้นเพียง 4% อู่ฮั่นเป็นศูนย์กลางการขนส่งและเป็นเมืองที่มีโรงงานผลิตใหญ่เป็นอันดังสองของจีน มากไปกว่านั้นโรคระบาดยังส่งผลต่อเทศกาลตรุษจีน ในช่วงที่มีการจับจ่ายใช้สอยกัน
2. โรคระบาดส่งผลต่อมนุษยชาติ
โรคระบาดเกิดขึ้นทุกปี แต่อาจจะเกิดขึ้นในบางพื้นที่ ในความเป็นจริงแล้วโรคระบาดส่วนใหญ่มักเกิดจากการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ก่อนหน้า และเกิดขึ้นเพียง 2-3 เดือนแล้วก็หายไป แต่โรคระบาดทั่วโลกมักจะเกิดขึ้นทุกๆ 10ปี ไปจนถึง 50 ปี ทำให้มนุษย์ไม่สามารถพัฒนาภุมิคุ้มกันให้กับตนเองได้ทัน และไวรัสหลายชนิดถูกพัฒนามาจากสัตว์
วิธีการป้องกันตนเองจากโรคระบาดนี้ก็คือ ทำตามสัญชาตญาณ เนื่องจากวัคซีนอาจจะใช้เวลาในการค้นพบเป็นเวลาหลายปี ดังนั้นคุณสามารถป้องกันตนเองได้หลากหลายวิธี ดังนี้
อย่างแรก พยายามฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไข้หวัดทุกๆปี อย่างที่สอง หลีกเลี่ยงกลุ่มคนที่ไอหรือจามบ่อยๆ อย่างที่สาม ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่และน้ำสะอาด อย่างสุดท้าย พยายามอย่าสัมผัสตา, จมูกและปากของตนเอง ทำทั้งหมดสี่อย่างนี้ก็จะสามารถป้องกันคุณจากเชื้อโรคต่างๆได้แล้วค่ะ