ข่าว

Samsung ทำกำไรได้มากกว่า Apple เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Thai Trading Focus

Samsung ทำกำไรได้มากกว่า Apple เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Samsung Electronics ได้แซง Apple เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีในตลาดสมาร์ทโฟนของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ในไตรมาสที่ 3 ด้วยสาเหตุมาจากการประสบความสำเร็จของ ‘Galaxy Note 20’ series และความล่าช้าของการปล่อยสินค้าตัวใหม่ของ Apple เนื่องจากการเกิด Covid 19

Samsung ได้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง

จาการสำรวจของ Strategy Analytics เมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมานี้ Samsung Electronics ได้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในตลาดสมาร์ทโฟนของสหรัฐอเมริกาด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 33.7% ในไตรมาสที่ 3

และนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ไตรมาสที่สองเมื่อปี 2560 ที่ Samsung ได้ขึ้นมาแซง Apple ในตลาดของอเมริกาเหนือ เนื่องจาก Covid 19 และดูเหมือนว่าจะมีผลกระทบมาจากความล่าช้าของการเปิดตัวสินค้า iPhones ตัวใหม่ ซึ่งเกิดความล่าช้าจากปีที่แล้วมาได้ประมาณ 1 เดือน

ซึ่งในขณะเดียวกัน Samsung Electronics ได้เปิดตัว Galaxy Note 20 series และ ‘Galaxy Z Fold 2′ ไปพร้อมกัน และเป็นบริษัทที่ได้รับความนิยมในเกาหลีใต้ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้การขนส่งของ Samsung Electronics ในไตรมาสที่สามของประเทศสหรัฐอเมริกามีมูลค่าสูงถึง 10.4 ล้านยูนิต ซึ่งสูงถึง 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน

Apple ลงมาอยู่เป็นอันดับที่สอง
Apple ได้ลงมาเป็นอันดับสอง โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 30.2% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงมา 16% จากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน สินค้า Apple มีเพียงแค่ 9.3 ล้านยูนิตที่ถูกจำหน่าย แต่ถึงอย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่า Samsung Electronics จะกลับมาเป็นอันดับหนึ่งอีกครั้งในตลาดในไตรมาสที่สี่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอบคุณ iPhone 12 series ที่มียอดขายสูง
จากการรายงานพบว่า iPhone 12 series ได้ถูกขายออกไปเป็นจำนวน 2 ล้านยูนิตตั้งแต่วันแรกที่มีการเปิดให้สั่งซื้อสินค้าล่วงหน้า ในหลายประเทศ ซึ่งเป็รการเปิดตัวสินค้ารอบแรก ตัวเลขนี้สูงเป็นสองเท่าขิงยิดขายที่ iPhone 11 ออกวางจำหน่าย หุ้นในตลาดของ Apple ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มสูงขึ้น 47.9% ในไตรมาสที่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดทั้งหมดด และคาดว่า ส่วนแบ่งการตลาดจะมีความใกล้เคียงกันในปีนี้

 

ในขณะเดียวกันตลาดสมาร์ทโฟนในอเมริกาเหนือกำลังฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด 19 ในไตรมาสที่สามขนาดของตลาดสมาร์ทโฟนได้ลดลง 7.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 33.7 ล้านยูนิต และเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกและไตรมาสที่สอง ลดลงอยู่ที่ 17.2% และ 12.2% ตามลำดับ สำหรับไตรมาสที่สี่คาดว่าจะมีการฟื้นฟูให้ดีขึ้นถึงระดับที่มียอดขายสูงที่สุดเหมือนกับปีที่แล้ว

Show More
Back to top button