Donald Trump จะเปิดตัวโซเชียลมีเดียใหม่ โดยที่ไม่ง้อ Twitter และ Facebook
Donald Trump มีแผนที่จะกลับมายังโลกไซเบอร์อีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยการสร้างแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ด้วยตนเอง
ข้อมูลข่าวสารได้ถูกแสดงไปยัง Jason Miller ผู้ให้คำปรึกษาและโฆษกเก่าของงานแคมเปญของ Donald Trump เขากล่าวว่า Trump จะกลับมายังโซเชียลมีเดียอีกครั้งงในอีกสองถึงสามเดือนข้างหน้า
Miller เผยว่า แพลทฟอร์มของ Trump จะได้รับความสนใจจากผู้ใช้เยอะแยะมากมาย และจะเป็นการเปลี่ยนแปลงภาพของโซเชียลมีเดีย ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาไม่ได้กล่าวว่า โซเชียลมีเดียที่จะถูกปล่อยออกมานั้นเป็นโซเชียลมีเดียประเภทใด
“แต่ฉันคิดว่า น่าจะเป็นอะไรสักอย่างบนโซเชียลมีเดียลที่ต้องเด็ดอย่างแน่นอน” Miller กล่าว (22/3/2564)
“แพลทฟอร์มนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทุกคนกำลังตั้งตารอดูว่า Trump จะทำอะไร ซึ่งแพลทฟอร์มนั้นจะเป็นของเขาเอง” เขากล่าวเพิ่มเติม อ้างอิงจาก CNET
Miller ยังเผยอีกว่า บริษัทหลายแห่งกำลังติดตามดู Trump และได้พูดคุยกันถึงแพลทฟอร์มใหม่ที่จะออกมาเร็วๆ นี้
“แพลทฟอร์มใหม่นี้จะต้องยอดเยี่ยมมากๆ ทุกคนต้องการ Trump และเขาจะดึงดูดผู้คนเป็นล้านๆ คนด้วยแพลทฟอร์มที่จะออกมานี้” Miller กล่าว
โซเชียลมีเดียได้บล็อกบัญชีของ Trump
แพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Twitter และ Facebook ได้ทำการบล็อก Trump เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ทั้งสองแพลทฟอร์มนี้ได้ทำการบล็อกโพสของ Donald Trump เมื่อผู้สนับสนุน Trump ได้ก่อความวุ่นวายที่รัฐสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 6 มกราคม เพื่อที่จะหยุดยั้งกระบวนการการเแต่งตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ Joe Biden
Trump ได้ใช้ Twitter มาเป็นระยะเวลา 4 ปี ในขณะที่เขายังเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อยู่ เขาได้ใช้บัญชี Twitter ของเขาปลุกระดมและเปลี่ยนโฉมการเมืองใหม่
มากไปกว่านั้น Twitter ยังได้บล็อกโพสของ Trump ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความรุนแรง ยกตัวอย่างเช่น การแสดงพฤติกรรมหยาบคาย และสะท้อนให้เกิดความรุนแรง
เมื่อเดือนที่แล้ว Ned Segal Chief Financial Officer ของ Twitter ไม่อนุญาตให้ Trump กลับมาใช้แพลทฟอร์มได้อย่างเดิม แม้ว่าเขาจะเสนอชื่อตัวเองอีกครั้งในฐานะผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีก็ตาม
“นโยบายของเราถูกออกแบบมาเพื่อไม่ให้เกิดการยุยงส่งเสริมในเรื่องของความรุนแรง และถ้ามีคนทำผิดนโยบายของพวกเรา พวกเราก็จำเป็นต้องบล็อกการให้บริการ และนโยบายของพวกเราไม่อนุญาตให้คนเหล่านั้นกลับมาใช้แพลทฟอร์มได้อีก” Segal กล่าว