LG ปิดฉากธุรกิจสมาร์ทโฟน แล้วผู้ใช้งานจะเป็นอย่างไรต่อไป?

LG Electronics เป็นหนึ่งในธุรกิจที่บุกเบิกธุรกิจสมาร์ทโฟน แต่ถึงอย่างไรก็ตามธุรกิจสมาร์ทโฟน LG ก็ตัดสินใจที่จะปิดตัวลงในวันที่ 31 กรกฎาคม ปี 2564 แล้วผู้ใช้งานจะเป็นอย่างไรต่อไป?

LG ยังคงให้บริการผู้ใช้งานเป็นปกติ

การบริหารจัดการของ LG กล่าวว่า พวกเขาจะยังคงให้บริการและอัพเดรตซอฟแวร์แก่ลูกค้าเป็นปกติในแต่ละประเทศ Reuters เผยเมื่อวันพุธที่ (4/7/2564)

บนเว็บไซด์ของเกาฟลีใต้ LG กล่าวถึงการให้บริการซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์แก่ลูกค้าเก่า นอกจากนั้นบริษัทยังได้ให้คำสัญญาว่าจะทำการอัพเดรตระบบ Google Android 12 operating system (OS) ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดในสมาร์ทโฟนบางรุ่น

LG กล่าวว่า พวกเขาจะทำการอัพเดรด Android 11 แก่สมาร์ทโฟนบางรุ่น อย่างเช่น Velvet, V60 ThinQ, G7 สมาร์ทโฟนรุ้นอื่นๆ คาดว่าจะได้รับการอัพเดรต Android 11  ในปลายปีนี้ ยกตัวอย่างเช่น G8X, G8S, Velvet 4G, Wing, K52 และ K42.

LG ออกจากตลาดสมาร์ทโฟนอย่างเป็นทางการ

LG กล่าวว่าจะทำการอัพเดรต Android 12  ให้แก่สมาร์ทโฟนบางรุ่นเท่านั้น แต่พวกเขาก็เตือนว่าแผนการนี้จะมาพร้อมกับตารางการจัดจำหน่ายของ Google และประสิทธิภาพของอุปกรณ์แต่ละเครื่องเมื่อมีทดสอบการอัปเดต

ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในระหว่างที่มีการทดสอบ Android 12 LG ก็อาจจะยกเลิก Android 12 ก็ได้ XDA Developer กล่าว

ถ้าคุณกำลังจะอัพเดรต Android 12 นี่ก็เป็นโอกาสที่คุณจะได้มีสมาร์ทโฟนรุ่นบุกเบิกเป็นของตนเองแล้ว ซึ่ง Android 12 จะติดตั้งกับ Android 10 ยกตัวอย่างเช่น Velvet, V60 ThinQ และ Wing

เหตุผลที่ LG ปิดธุรกิจลง

LG ตัดสินใจที่จะปิดธุรกิจสมาร์ทโฟนลงหลังจากที่ประสบปัญหาขาดทุนเป็นเวลาต่อเนื่อง 6 ปี ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ US $4.5 พันล้าน อย่างไรก็ตาม LG จะไปโฟกัสที่การพัฒนาในธุรกิจประเภทอื่น อย่างเช่น ชิ้ส่วนรถยนต์อิเล็กทรอนิกส์, อุปกรณ์การเชื่อต่อ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

LG เป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ทำการบุกเบิกธุรกิจสมาร์ทโฟนโดยมีนวัตกรรมหลากหลาย รวมถึง กล่องที่มีความกว้างแบบ Ultra และเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก ในปี 2556 รองจาก Samsung และ Apple

หลังจากนั้นผลิตภัณฑ์ของบริษัทก็ประสบปัญหาในเรื่องความบกพร่องของซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์ ซึ่งส่งกระทบต่อผู้ใช้งาน ทำให้สมาร์ทโฟนเกิดความล่าช้า  มากไปกว่านั้นนักวิเคราะห์ก็ออกมาวิพากย์วิจารณ์บริษัทในเรื่องของการขาดความบกพร่องทางการตลาด เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มาจากประเทศจีน

ในปัจจุบันสัดส่วนการตลาดจากทั้วโลกของ LG อยู่ที่ประมาณ 2% เท่านั้น เมื่อปีที่ผ่านมา LG ได้ส่งออกสินค้าไปเป็นจำนวน 23 ล้านยูนิต เมื่อเทียบกับ Samsung ที่มีการส่งออกสินค้าไปจำนวน 256 ล้านเครื่อง อ้างอิงจาก Counterpoint

นอกจากอเมริกาเหนือแล้ว LG ยังมีสัดส่วนการตลาดขนาดใหญ่ในประเทศลาตินอเมริกาอีกด้วย ซึ่งอยู่อันดับที่ 5 “ในอเมริกาใต้ บริษัท Samsung และ บริษัทที่มาจากจีน อย่างเช่น Oppo, Vivo และ Xiaomi คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ต่ำไปจนถึงปานกลาง” Park Sung-soon นักวิเคราะห์ที่ Cape Investment & Securities กล่าว

เงินปันผลของสมาร์ทโฟนของ LG นั้นมีสัดส่วนที่น้อยติดหนึ่งในห้า หรืออยู่ที่ประมาณ 7% ของรายได้ ซึงคาดว่าจะปิดในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ในเกาหลีใต้พนักงานจะถูกย้ายไปทำงานในธุรกิจของ LG ประเภทอื่นๆ และบริษัทในเครือ