ราคาน้ำมันอาจสูงขึ้นอีกครั้งเนื่องจากสงครามยูเครนและรัสเซีย

ราคาน้ำมันโลกเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากวิกฤตภูมิรัฐศาสตร์รอบๆ ยูเครนที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ มากไปกว่านั้นตลาดหุ้นที่สำคัญในแถบยุโรปยังคงทรงตัว ท่ามกลางการประเมินว่า มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อรัสเซียมีความรุนแรงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ และในขณะนี้ราคาน้ำมันได้พุ่งสูงขึ้นเกือบถึง $100 ต่อบาเรล และคาดว่า ราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงถึง $100 ต่อบาเรล ถ้าหากวิกฤตครั้งนี้ยังคงดำเนินต่อ เพราะน้ำมันดิบส่วนใหญ่แล้วถูกส่งออกจากประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก

ในวันเดียวกัน 0.2% ↑= น้ำมันดิบดับบลิวทีไอ (West Texas Intermediate) ราคาปิดที่ $92.10 ต่อบาเรลในเดือนเมษายน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค ซึ่งเพิ่มสูงขึ้น $0.19 (0.2%) เมื่อเทียบกับวันก่อน

เมื่อไม่นานมานี้ราคาน้ำมันได้พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากสงครามความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย

Pat Taker ผู้บริหารของ Economist Intelligence Unit (EIU) กล่าวกับ MarketWatch ว่า ดูเหมือนว่า ความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียได้ส่งผลร้ายต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย, ความเสี่ยงการถูกคว่ำบาตร และราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มากไปกว่านั้นเขายังเผยอีกว่า ในขณะที่วิกฤตยูเครนยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้ตลาดพลังงานเผชิญปัญหาผลตอบแทนที่ชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางกลุ่มเห็นว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่การคว่ำบาตรจะส่งผลต่อการส่งออกน้ำมันดิบ เนื่องจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่มีต่อรัสเซีย ถูกควบคุมโดยหน่วยงานของ Biden

Warren Patterson หัวหน้าทีมกลยุทธ์วัตถุดิบของ ING กล่าวว่า การคว่ำบาตรที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ยังไม่มีผลต่อการส่งออกน้ำมันดิบจากรัฐเซีย และธนาคารท้องถิ่นที่อยู่ในอุตสาหกรรมวัตถุดิบยังไม่ได้รับผลกระทบต่อสถานการณ์ในครั้งนี้