พนักงานลาออกจากโรงงาน Foxconn ในประเทศจีน
มีรายงานว่า พนักงาน 20,000 รายลาออกจากโรงงาน Foxconn ในเจิงโจว ประเทศจีน ซึ่งเป็นโรงงานผลิต iPhone ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นการแสดงให้เห็นว่า นี่อาจจะเป็นสัญญาณเตือนการผลิต iPhone ครั้งใหญ่ในช่วงคริสมาสต์ที่กำลังจะมาถึง
เมื่อวันที่ 25 ที่ผ่านมา สื่อต่างชาติรายงานว่า พนักงานใหม่จำนวน 20,000 รายที่ทำงานใน Foxconn โรงงานผลิต iPhone ในเจิงโจวลาออก ในขณะที่ Foxconn กำลังพยายามที่จะรีสตาร์ทการผลิตขึ้นมาใหม่ภายในสิ้นเดือนนี้
Foxconn เป็นผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ เกี่ยวกับส่วนประกอบของ iPhone และ iPads ให้ Apple และรับผิดชอบการผลิตของ iPhone ทั่วโลกกว่า 70%, 60% ของผลิตภัณฑ์จะถูกผลิตที่โรงงาน Foxconn ประเทศจีนในเมืองเจินโจว และส่งออกไปยังสหรัฐฯ, ยุโรป มากไปกว่านั้น iPhone 14 จำนวนกว่า 80% และโมเดลของ iPhone รุ่นนี้ ยังถูกผลิตในโรงงานแห่งนี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามการผลิต iPhone ของ Apple ต้องชะงักลง เนื่องจากประเทศจีน เมืองเจินโจวถูกล็อกดาวน์ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม สาเหตุเกิดจากการระบาดของโควิด 19 และการส่งออกในไตรมาสที่สี่ของ Apple คาดว่าจะส่งออกจำนวน 80 ล้านยูนิต แต่กลับมีการส่งออกลดลงจาก 2-3 ล้านยูนิตเลยทีเดียว
Foxconn จึงตัดสินใจเริ่มจ้างพนักงานใหม่ ซึ่งเปิดรับเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยเงื่อนไขในเรื่องของสวัสดิการ ส่งผลให้พนักงานหลายคนต่างพากันไม่พอใจ และมีการประท้วงในวันที่ 23 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจ่ายโบนัสที่ล่าช้าของฝ่ายบริหารจัดการ และการดูแลพนักงานที่ไม่เป็นธรรม
สื่อต่างชาติส่วนใหญ่รายงานว่า Foxconn ให้เหตุผลว่า คอมพิวเตอร์มีปัญหาจึงไม่สามารถจ่ายเงินค่าจ้างให้พนักงานได้ ด้วยสาเหตุนี้จึงเกิดการตะลุมบอลกันเกิดขึ้นระหว่างพนักงานและพนักงานรักษาความปลอดภัย
ยอดขายของ Apple คาดว่าจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากเหตุการในครั้งนี้ ซึ่งเป็นช่วงคริสมาสต์ และคาดว่า บริษัทน่าจะทำยอดขายได้สูงขึ้นในช่วงนี้ เมื่อปีที่แล้วการส่งออกชิ้นส่วน iPhone อยู่ที่ 235.7 ล้าน, ผลิตภัณฑ์ iPhone 84.9 ล้านเครื่อง หรือ 36% ซึ่งเป็นรายงานการผลิตในไตรมาสที่สี่
Daniel Ives เผยว่า “การล็อกดาวน์ทำให้ต้นทุนของ Apple เพิ่มขึ้น $1 พันล้านต่อสัปดาห์” Wedbush Securities นักวิเคราะห์เผยว่า การผลิต iPhone จะตกลงสูงถึง 30% ในเดือนนี้ หลังจากที่มีการประท้วงของพนักงาน