การประท้วงในประเทศจีนส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น
เมื่อวันที่ 29 ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงพุ่งสูงขึ้น 5.24% และไม่เพียงแต่ตลาดหุ้นฮ่องกงที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ตลาดหุ้นจีนก็พุ่งสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ดัชนี Shanghai COVID เพิ่มสูงขึ้น 2.31% และดัชนี Shenzhen เพิ่มสูงขึ้น 2.41% ตามลำดับ และเมื่อวันที่ 27 กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านโควิดเป็นศูนย์กระจายไปทั่วประเทศจีน ได้ส่งผลกระทบไปยังตลาดหุ้นจีน อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นโลกในวันที่ 28 อีกด้วย
อย่างไรก็ตามภายในหนึ่งวัน ตลาดหุ้นจีนกลับดีดตัวแรงขึ้นมาอีกครั้ง หลังมีการประท้วง เนื่องจากหน่วยงานรัฐของจีนออกมารับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันลดลงตามไปด้วย
สภาแห่งรัฐของจีนจัดการบรรยายสรุปเกี่ยวกับโควิด 19 ณ เวลา 15.00 น. ในวันที่ 29
– “มาตรการกักกันระยะยาวควรเป็นไปอย่างระมัดระวัง” โดยสรุปแล้ว กระทรวงสาธารณสุขเผยว่า พวกเขาจะระมัดระวังในการรับมือกับมาตรการกักกันระยะยาว
– “การปิดล้อมระยะยาวควรเป็นไปอย่างระมัดระวัง เพราะไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและการทำงานของประชาชนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดความวิตกกังวลได้ง่ายอีกด้วย” เฉิง เหยาฉวน หัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติกล่าว
“พวกเราควรแบ่งออกเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงและความเสี่ยงต่ำ และกำหนดมาตรการล็อกดาวน์ระยะยาวในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง และล็อกดาวน์ระยะสั้นในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ” เขากล่าว
“รัฐบาลท้องถิ่นไม่ควรดำเนินการปิดเมืองระยะยาวโดยพลการ”
มากไปกว่านั้นเขายังกล่าวอีกว่า “มีการจัดตั้งคณะทำงานพิเศษ เพื่อป้องกันรัฐบาลท้องถิ่น จัดการปิดล้อมโดยอิสระ”
-“พวกเราจะโฟกัสไปที่การฉีดวัคซีนแก่คนสูงอายุ” กระทรวงสาธารณสุชกล่าว
Shagang เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบบริการฉีดวัคซีนกล่าวว่า “รัฐบาลจะใช้มาตรการพิเศษเพื่อเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ”
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เป็นความตั้งใจที่จะเร่งการเริ่มต้นใหม่ของเศรษฐกิจด้วยการเสริมสร้างการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุที่อ่อนแอที่สุดต่อการระบาดของโควิด 19
– การลดลงของจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน: การยืนยันยอดผู้ติดเชื้อในแต่ละวันส่งผลให้ลดความวิตกกังวลแกประชาชนได้มากขึ้น
คณะกรรมการจัดการสุขภาพและสุขอนามัยแห่งชาติประกาศเมื่อวันที่ 28 ว่า ยืนยันยอดผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ 38,645 รายต่อวัน ซึ่งน้อยกว่าวันก่อน หรือเท่ากับ 43,347 ราย นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด 19 ลดลง เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
ทั้งนี้ทั้งนั้นดูเหมือนว่า ตลาดหุ้นจีนจะปรับตัวขึ้นพร้อมๆ กัน โดยตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้นมากกว่า 5% เมื่อเทียบกับวันก่อน เนื่องจากเหตุผลที่ทับซ้อนกันหลายประการ