ข่าว

ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ ยอดขายสินค้าแบรนด์หรูหรากลับมียอดขายที่พุ่งสูงขึ้น

Thai Trading Focus

ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ ยอดขายสินค้าแบรนด์หรูหรากลับมียอดขายที่พุ่งสูงขึ้น

The Wall Street Journal (WSJ) รายงานเมื่อวันที่ 20 (ตามเวลาท้องถิ่น) ว่า ยอดขายสินค้าแบรนด์หรูมียอดขายเป็นบวก ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ และความวุ่นวายในห่วงโซ่อุปทาน

WSJ ยังเผยอีกว่า สินค้าแบรนด์ อย่าง Hermes ประกาศยอดขายในไตรมาสที่สามของปีนี้ที่ 3.14 พันล้านยูโร ซึ่งสูงขึ้น 24% จากปีที่แล้วในไตรมาสเดียวกัน Kering บริษัทแม่ของ Gucci ก็แสดงยอดขายที่ 5.14 พันล้านยูโร ซึ่งสูงขึ้น 14% จากยอดขายปีที่แล้วในไตรมาสเดียวกัน Louis Vuitton Moe Hennessy (LVMH) เผยยอดขายที่ 19.76 พันล้านยูโรในไตรมาสที่สาม ซึ่งสูงขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในไตรมาสเดียวกัน ทั้ง Kering และ LVMH แสดงให้เห็นว่า ยอดขายจริงสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

ยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการที่นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันไปจับจ่ายซื้อของอย่างล้นหลามในปารีสและสถานที่อื่นๆ เนื่องจาก “เงินดอลลาร์ที่แข็งค่ามาก” WSJ กล่าวว่า ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเงินเฟ้อ ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และการรุกรานยูเครนของรัสเซีย แต่บริษัทสินค้าแบรนด์หรูกลับไม่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้

ความหลงใหลในการบริโภคสินค้าแบรนด์หรูยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ Eric Du Halgo, Chief Financial Officer (CFO) Hermes กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณบ่อบอกถึงการชะลอตัวในขณะนี้” LVMH CFO Jean-Jacques Gwiony ยังเผยอีกว่า “ยอดขายสินค้าแบรนด์หรูมุ่งเป้าไปที่เศรษฐี ที่มีพฤติกรรมการบริโภคเฉพาะตัว จึงไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจหรือภาวะเศรษฐกิจขึ้นๆ ลงๆ” เขายังกล่าวอีกว่า “เขาไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า ไม่เกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างสิ้นเชิง แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การตกต่ำในตลาดสินค้าหรูหราไม่ได้ส่งผลยาวนานขนาดนั้น”
ราคา Hermes พุ่งสูงขึ้น 4% ในปีนี้ ซึ่ง Hermes มักจะปรับราคาให้สูงขึ้นในทุกๆ เดือนมกราคม โดยเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.5 – 2%

Chanel ปรับราคาสูงขึ้นสามครั้ง เมื่อปีที่ผ่านมา และในต้นปีนี้ ราคาของ “Coco Handle Bag” เพิ่มสูงขึ้นจาก 8% เป็น 12% ในส่วนของ Kering เขาไม่ได้ให้รายละเอียดว่า จะขึ้นราคาหรือไม่ แต่กล่าวว่าคอลเลกชั่นใหม่จะถือเป็น “โอกาสในการขึ้นราคา”

Show More
Back to top button