หุ้นของตลาดโฆษณา Google และ Meta ตกลงต่ำกว่า 50%
หุ้นของตลาดโฆษณาออนไลน์ของ Google และ Meta ได้สร้างระบบผูกขาดในตลาดโซเชียลมีเดียและเครื่องมือการค้นหาในสหรัฐฯ และหุ้นของตลาดโฆษณาออนไลน์ของทั้งสองบริษัทตกลงต่ำกว่า 50% เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ในปีนี้คาดว่า จะเป็นปีที่ยากที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขนาดใหญ่ พวกเขาจะต้องหันมาบริหารจัดการแบบรัดกุมเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี เนื่องจากกฎหมายการต่อต้านการผูกขาดที่กำลังมุ่งเป้าไปที่พวกเขา ได้ถูกแพร่กระจายไปทั่วโลกท่ามกลางธุรกิจที่ซบเซาในขณะนี้
อ้างอิงจาก Insider Intelligence บริษัททำการวิจัย Wall Street Journal (WSJ) รายงานเมื่อวันที่ 15 (ตามเวลาท้องถิ่น)ว่า หุ้น Google และ Meta ในตลาดโฆษณาแบบดิจิตอลในสหรัฐฯ ตกลงต่ำกว่า 50% เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งคาดว่าเกิดจากสาเหตุที่การเติบโตของบริษัท startups อย่าง TikTok ของ ByteDance ในประเทศจีน
ผลการดำเนินงานของทั้งยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี นับจากการระบาดของโควิด 19 เนื่องจากความต้องการด้านการโฆษณาพากันกระจุกตัวทางออนไลน์ เพราะผู้บริโภคหันมานิยมการบริโภคแบบไม่เห็นหน้า ดังนั้นส่งผลให้ผลกำไรจากธุรกิจหลักของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่จึงเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกต่างชะลอตัวลงตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลต่อยอดขายผลิตภัณฑ์และการโฆษณาออนไลน์เป็นอย่างมาก
ด้วยเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่างพากันลดต้นทุนและลดแรงงาน มากไปกว่านั้น Amazon เผยถึงแผนการปลดพนักงาน 18,000 คน เมื่อตอนต้นปี และ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ตัดสินใจปลดพนักงาน 15% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดของภาคการดูแลสุขภาพ นอกจากนั้น Meta จึงลดจำนวนพนักงานลงประมาณ 13% จากการปรับโครงสร้างเมื่อปีที่แล้ว
จำนวนการปลดพนักงานของบริษัทเทคโนโลยีพุ่งสูงขึ้นถึง 170,000 รายในปีที่แล้ว การปรับลดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้วคาดว่าจะนำไปสู่การปรับโครงสร้างที่แข็งแกร่งขึ้น นักวิเคราะห์กล่าวว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ, อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะขัดขวางเศรษฐกิจโลก
Dan Ives นักวิเคราะห์ของ Wedbush Securities เผยว่า “วันที่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ทำเงินได้ง่าย ๆ ได้สิ้นสุดลงแล้ว” “พวกเขาจะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่าง ‘พายุระดับห้าที่แข็งแกร่งที่สุด” มากไปกว่านั้นเขายังกล่าวอีกว่า “บริษัทเทคโนโลยียักใหญ่เคยใช้เงินอย่างราชา ในปี 1980s แต่ในทางกลับกัน ตอนนี้บริษัทกลับต้องใช้เงินด้วยงบประมาณที่จำกัด”