ถึงแม้ว่า ภาวะเฟ้อจะผ่อนคลายลง แต่เศรษฐกิจถดถอยเป็นสิ่งที่หลักเลี่ยงไม่ได้
ถึงแม้ว่าความกดดันของเงินเฟ้อจะผ่อนคลายลง แต่ภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จากผลสำรวจของ Wall Street Journal เมื่อวันที่ 15 (ตามเวลาท้องถิ่น) ได้สัมภาษณ์นักเศรษฐศาสตร์ทั้งหมด 71 ท่าน พบว่า 61% กล่าวว่า โอกาสที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี ซึ่งไม่แตกต่างจากผลสำรวจเมื่อเดือนตุลาคม ที่เห็นด้วยไปในทิศทางเดียวกัน (63%) มากไปกว่านั้น WSJ ยังเผยอีกว่า นี่เป็นระดับสูงสุด ไม่นับวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 ที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และเหตุการณ์ COVID-19 ในปี 2563
โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเกิดการถดถอยเพิ่มขึ้น 90% ทันทีหลังเกิดโรคระบาดโควิด 19 ราคาตกลง 12% ในเดือนกรกฏาคม ปี 2564 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นราคากลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นยังมีการคาดการณ์ว่า ความรุนแรงหรือช่วงของการถดถอยจะตื้นและสั้น โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ตอบแบบสอบถามคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ จะเติบโตขึ้น 0.1% ในไตรมาสแรกของปีนี้ และลดลง 0.4% ในไตรมาสที่สอง ก่อนที่จะหยุดนิ่งในไตรมาสที่สาม อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า จะเติบโต 0.6 % ในไตรมาสที่สี่ ซึ่งสูงกว่าการสำรวจครั้งก่อน (0.4%)
มากไปกว่านั้นความคาดหวังในการผ่อนคลายแรงกดดันด้านเงินเฟ้อก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน จากการสำรวจ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว คาดว่าจะลดลงเหลือร้อยละ 3.1 ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งลดลงจากการสำรวจครั้งก่อน (3.3%)
นี่เป็นมุมมองที่ผสมผสานกับความพยายามของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในการลดอัตราเงินเฟ้อโดยไม่ให้เศรษฐกิจถดถอย โดย 3 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่า Fed จะไม่สามารถแก้ปัญหาในข้อนี้ได้
“Brett Ryan นักเศรษฐศาสตร์จาก Deutsche Bank กล่าวว่า “แม้ว่าดัชนีชี้วัดอัตราเงินเฟ้อจะคลี่คลายลงเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ตลาดการจ้างงานที่แข็งแกร่งบ่งชี้ว่า Fed ยังมีหนทางอีกยาวไกล” “Fed จะรักษาแนวทางที่เข้มงวดเพื่อฟื้นฟูการจ้างงานและเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งจะนำไปสู่การว่างงานและความซบเซาทางเศรษฐกิจ”
แม้ว่า Fed จะย้ำว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญประมาณครึ่งหนึ่ง (50.8%) คาดการณ์ว่าFed จะเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินภายในปีนี้ ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถาม (36.9%) ได้กล่าวว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสแรกของปีหน้า ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายจะเกิดขึ้นภายในหนึ่งปี โดยประมาณ
การสำรวจดำเนินการตั้งแต่วันที่ 6 ถึง 10 และไม่ใช่อาสาสมัครทั้งหมด 71 ท่านที่ตอบแบบสำรวจ WSJ กล่าว