ตลาดแรงงานมีผลกระทบอย่างไรต่อการแกว่งตัวของตลาด
ธนาคารกลางของสหรัฐฯเชื่อว่า การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นภาระของธนาคารกลาง แต่ธนาคารกลางก็ยังคงเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพื่อเพิ่มความร้อนแรงให้กับตลาดแรงงาน นักลงทุน Wall street กำลังเข้าไปแทรกแซง Hell Week ซึ่งเป็นข้อมูลตลาดแรงงานที่อาจส่งผลกระทบต่อความผันผวนของตลาด
Christopher Waller ผู้ว่าการธนาคารกลางของสหรัฐฯ มีไอเดียเกี่ยวสถานการณ์ในปัจจุบันว่า การใช้จ่ายของลูกค้าไม่ได้ลดลงมากเท่าไหร่นัก บวกกับตลาดแรงงานยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นอัตราเงินเฟ้อจะไม่ลดลง เนื่องจากการแวกว่งตัวของตลาด มากไปกว่านั้นเขายังบอกอีกว่า ถ้าสถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ปีนี้จะต้องปรับเป้าหมายนโยบายให้สูงขึ้น เพื่อไม่ให้โมเมนตัมเสียไป เพราะฉะนั้นสื่อเชื่อว่า ข้อมูลนี้มีความสำคัญต่อนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการบ่งบอกว่า ยิ่งตลาดแรงงานมีความแข็งแรงมากเท่าไหร่ ความเจ็บปวดที่รอดอยู่ข้างหน้าอาจมากขึ้นเท่านั้น
จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์พบว่า ในระบบเศรษฐกิจ มีงานเพิ่มขึ้นถึง 200,000 งานในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ถึงแม้ว่าจะลดน้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจากการสำรวจของ Refinitiv พบว่า พวกเขาคาดหวังว่า อัตราว่างงานจะยังคงอยู่ที่ 3.4% และถ้าหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้จะทำให้นักเศรษฐศาสตร์สามารถเพิ่มการประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้นได้
Josh Hirt นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของสหรัฐฯ ที่ Vanguard เชื่อว่า พวกเขาติดอยู่ท่ามกลางความยุ่งเหยิง ซึ่งหมายความว่า กิจกรรมอ่อนแอลงในส่วนสำคัญของภาคส่วนที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยในระบบเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่า ส่วนสำคัญจะมีความยืดหยุ่น แต่ ณ ตอนนี้ ทุกคนอยู่ในยุคที่ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยไม่ได้ส่งผลเต็มที่ในระบบเศรษฐกิจ