ข่าว

เศรษฐกิจชะลอตัวสาเหตุจากการหดตัวของ NYSE

Thai Trading Focus

เศรษฐกิจชะลอตัวสาเหตุจากการหดตัวของ NYSE

ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในสหรัฐฯ อยู่ในภาวะหดตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจเกิดจากยอดขายการค้าปลีกตกลงในเดือนมีนาคมและความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มสูงขึ้น ถูกกำหนดโดยธนาคารกลางของสหรัฐฯ

เมื่อวันที่ 14 เวลา 10.40น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,891.71 ซึ่งลดลง 137.98 จุด (0.41%) จากช่วงก่อนหน้า
ดัชนี S&P 500 ลดลง 7.13 จุด (0.17%) จากช่วงก่อนหน้าเป็น 4,139.09 และดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 55.69 จุด (0.46%) จากช่วงก่อนหน้าเป็น 12,110.58

ธนาคารขนาดใหญ่มีผลประกอบการดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสแรก แม้ว่าจะเกิดวิกฤตในธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น ธนาคารแห่งซิลิคอนวัลเลย์ (SVB) และธนาคารซิกเนเจอร์ แต่ยอดค้าปลีกกลับลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมีนาคม ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

เมื่อผลประกอบการไตรมาสแรกเริ่มทำกำไรอย่างจริงจังนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป JP Morgan, Citigroup และ Wells Fargo ได้ประกาศผลประกอบการทั้งหมดพบว่า ผลประกอบการของพวกเขาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
สื่อมีเดียของสหรัฐฯ วิเคราะห์ว่า หุ้นที่กล่าวข้างต้นกำลังปรับตัวขึ้นในขณะนี้เป็นการส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวต่อวิกฤตธนาคารในเดือนมีนาคม
ในทางกลับกันยอดค้าปลีกในเดือนมีนาคมเป็นที่น่ากังวลแก่นักลงทุน
จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ พบว่า ยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ ลดลง 1% ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า การลดลงของยอดค้าปลีกครั้งนี้ใหญ่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.4% ซึ่งข้อมูลถูกรวบรวมโดย Wall Street Journal (WSJ)
ยอดค้าปลีกลดลงสี่ครั้งในช่วงห้าเดือนที่ผ่านมาส่งผลให้เศรษฐกิจอาจมีการชะลอตัวลง การบริโภคคิดเป็นสองในสามของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ ดังนั้นการบริโภคที่ลดลงอาจกระตุ้นให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

แม้จะมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนพ.ค. แม้จะเกิดวิกฤติธนาคาร แต่ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์กลับดีเกินคาด ทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

“เนื่องจากนโยบายการคลังไม่ได้มีความเข้มงวดขึ้นมากนัก ส่งผลให้ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อก็สูงกว่าเป้าหมาย ดังนั้นนโยบายการเงินควรจะเพิ่มความเข้มงวดต่อไป” คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้อำนวยการเฟดกล่าวในการปราศรัย

Show More
Back to top button