อินโดนีเซียเป็นประเทศได้รับความนิยม IPO มากที่สุดในปีนี้
การเสนอขายหุ้น IPO ปีนี้ไม่ใช่ประเทศที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีระดับโลกหรือเป็นประเทศชั้นนำด้านเศรษฐกิจโลก 10 อันดับแรก แต่เป็นประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มเกาะที่มีประชากรจำนวนมากและเศรษฐกิจที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มากไปกว่านั้นประเทศอินโดนีเซียยังตั้งอยู่บนคราบโลหะจำนวนมากที่ใช้ในการทำแบตเตอรี่สำหรับสร้างยานพาหนะไฟฟ้า
ด้วยเหตุนี้ทำให้ประเทศกลายเป็นกลไกสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โลกสีเขียวและเป็นที่ต้องการของนักลงทุน ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก สำหรับบริษัทจดทะเบียนใหม่ ข้อมูลของ Dealogic รายงานว่า เมื่อวัดจากจำนวนทุนที่ระดมทุนได้ ประเทศอินโดนีเซียตามหลังประเทศผู้นำอย่างจีน, สหรัฐอเมริกา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ประเทศอินโดนีเซียแซงฮ่องกงซึ่งเป็นตลาด IPO อันดับต้น ๆ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งแซงหน้าประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างอินเดีย, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ผู้ให้บริการข้อมูล Dealogic, Perris Lee ที่เน้นตลาดตราสารทุนและตลาดทุนในเอเชียกล่าวว่า นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ ปีนี้เขาบอกกับสื่อว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับประเทศอินโดนีเซีย จนถึงตอนนี้นักลงทุนได้ทุ่มเงิน 2.1 พันล้านดอลลาร์ในการเสนอขายหุ้น IPO ของอินโดนีเซีย Lee กล่าว และนั่นไม่ใช่ทุกประเทศที่ระดมทุนได้มากถึง 2.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 จากนั้นจะมีการเสนอขายหุ้น IPO หลักๆ อย่างน้อย 5 รายการในปี 2566
ผลการดำเนินงานของ IPO ประเทศอินโดนีเซียประสบความสำเร็จ เนื่องจากการเสนอขายหุ้นในที่อื่นๆ นั้นยาก สาเหตุมาจากอัตราดอกเบี้ยและต้นทุนเงินทุนที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนถอนตัวจากตลาดหุ้นในปีที่ผ่านมา การเสนอขายหุ้น IPO ของสหรัฐฯ มักเป็นการเสนอขายหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ตอนนี้ สหรัฐฯ ประสบปัญหาจากการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย
ในขณะเดียวกัน ในฮ่องกง การประเมินมูลค่าที่ค่อนข้างแย่และการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดจากโควิดส่งผลให้การเสนอขาย IPO เป็นสิ่งที่ท้าทาย อย่างไรก็ตาม ในอินโดนีเซีย ประเทศนี้มีข้อได้เปรียบพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยหลายบริษัทที่ออกสู่สาธารณะส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ผลิตโลหะ มากไปกว่านั้นประเทศนี้มีสัดส่วนปริมาณนิกเกิลสำรองเกือบ 1 ใน 4 ของโลก ซึ่งเทียบเท่ากับความมั่งคั่งของออสเตรเลีย