CPI ของสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นในเดือนกรกฎาคม
ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ Consumer Price Index (CPI) ของสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น 0.2% ในเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว โดยมีอัตราการเติบโตประจำปีสะสม 12 เดือนที่ 3.2% เพิ่มขึ้น 0.2% จาก 3.0% ในเดือนมิถุนายน กรมแรงงานของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันที่ 10
อัตราเงินเฟ้อ CPI ประจำปีของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 41 ปี ที่ 9.1% ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว จากนั้นลดลงเหลือ 3% ในเดือนมิถุนายนปีนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 13 เดือนหลังจากลดลงเป็นเวลา 12 เดือน
อย่างไรก็ตาม การลดลงของ CPI นั้นคาดว่า จะมาจากยอดสะสม 12 เดือน มากกว่าเป็นสัญญาณเตือนว่า ราคาของสหรัฐฯ เริ่มจะกระโดดอีกครั้ง
อัตราเงินเฟ้อสะสม 12 เดือนเป็นผลรวมของอัตราการเติบโตรายเดือน และอัตราการเติบโตรายเดือนในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วอยู่ที่ร้อยละ 0.0% ซึ่งหายไปจากอัตราเงินเฟ้อประจำปีในเดือนกรกฎาคมปีนี้ อย่างไรก็ตาม อัตรา CPI ที่เพิ่มขึ้นใหม่รายเดือนในเดือนกรกฎาคมปีนี้คือ 0.2% ซึ่งหมายความว่ายอดรวมเพิ่มขึ้น 0.2%
ก่อนหน้านี้ อัตราเงินเฟ้อประจำปีในเดือนมิถุนายนลดลง 1% จาก 4% ในเดือนพฤษภาคม โดยมีอัตราเพิ่มขึ้น 1.2% ต่อเดือนในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และอัตราเพิ่มขึ้น 0.2% ต่อเดือนในเดือนมิถุนายนปีนี้
ส่งผลให้ธนาคารกลางของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งที่ 6 ในวันที่ 21 กันยายนนี้ ธนาคารกลางของสหรัฐฯ ระงับอัตราดอกเบี้ยหลักครั้งแรกในเดือนมิถุนายน หลังจากปรับขึ้นทั้งหมด 5% เป็นจำนวน 10 ครั้งติดต่อกันตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้วจนถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ รัฐบาลดำเนินการปรับขึ้น 0.25% อีกครั้ง ทำให้ช่วงเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานอยู่ที่ 5.25-5.50%
หากมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกครั้งในเดือนกันยายน อัตราเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% CPI รายเดือนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นไม่รุนแรงนัก โดยมีการเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมีนาคม, 0.4% ในเดือนเมษายน 0.1%, ในเดือนพฤษภาคม 0.2%, ในเดือนมิถุนายน และ 0.2% ในเดือนกรกฎาคมนี้
ในขณะเดียวกัน ดัชนี CPI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในสถิติหลัก โดยไม่รวมภาคพลังงานและอาหารที่มีความผันผวน ในขณะที่ตัวเลขสะสมประจำปีลดลง 0.1 จุด หรือ 4.7% นอกจากนั้นภาคพลังงานที่หายไปลดลง 12.5% ต่อปี ณ เดือนกรกฎาคม ในส่วนของอาหารเพิ่มขึ้น 4.9%
เศรษฐกิจสหรัฐเติบโต 2.4% ต่อปีในไตรมาสที่สองของปีนี้ (เมษายนถึงมิถุนายน) ซึ่งสูงกว่า 2.1% ของยอดรวมของปีที่แล้ว ในแง่ของการจ้างงาน การเพิ่มขึ้นสุทธิของงานภาคธุรกิจในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมลดลงเหลือ 180,000 ตำแหน่ง หรือเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ยรายเดือนของปีที่แล้ว และอัตราการว่างงานอยู่ที่ 3.5% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 53 ปี