indicator เหล่านี้มีเท่าหมด 3 เส้นด้วยกัน โดยประกอบไปด้วยเส้นกลางที่แสดงถึง exponential moving average (EMA) ในขณะที่ เส้นขอบบนจะถูกตั้งเป็นสองเส้น โดยจะตั้ง average true range (ATR) สูงกว่า EMA และ เส้นนที่อยู่ต่ำกว่าจะตั้งให้ต่ำกว่า EMA

Price action เกือบทั้งหมดจะอยู่ในช่วง upper และ lower bands ดังนั้นสัญญาณของเทรนจะปรากฎขึ้นเมื่อ bands มีการเคลื่อนที่ออกจากช่องนั่นเองค่ะ

นักเทรดสามารถเรียนรู้ทิศทางของเทรนจากสินทรัพย์นั้นๆผ่านทิศทางของช่องทาง

The Formula สูตรการคำนวณ

There are different formulas to calculate each of the lines within this indicator. Below are the formulas. สูตรการคำนวณมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กับเส้นแต่ละเส้นภายใน indicator นี้ เรามาดูสูตรแต่ละแบบกันเลยค่ะ

เส้นขอบล่าง = EMA

The Upper Band= EMA + 2 x ATR

The Lower Band= EMA – 2 x ATR

EMA: Exponential moving average (โดยทั่วไปมักเกิน 20 งวด)

ATR: Average True Range (โดยทั่วไปมักอยู่ระหว่าง 10 ถึง 20 งวด)

ในการคำนวณ indicator นี้ คุณจำเป็นต้องคำนวณ EMA และ ATR จากสินทรัพย์ที่มีอายุ 20 งวด หรือจำนวนงวดอื่นๆที่คุณต้องการ สำหรับ upper band คุณจำเป็นต้องนำ ATR คูณด้วย 2 จากนั้นเพิ่ม EMA

ในขณะที่ lower band คุณจำเป็นต้องนำ 2 คูณด้วย ATR จากนั้นลบด้วย EMA ซึ่งคุณจะต้องคำนวณตามขั้นตอนที่ได้กล่างมานี้ไปเรื่อยๆจนถึงวันสิ้นสุดงวด

นักเทรดจะได้อะไรจาก Kalter Channel?

หน้าที่ของ indicator นี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของนักเทรดแต่ละคน ถ้านักเทรดใช้ EMA ระยะยาว indicator ก็จะล่าช้า เพราะฉะนั้น channel จะมีการตอบสนองเร็วขึ้นตามโครงสร้างของราคา

ในทางกลับกัน EMA ระยะสั้นหมายถึง bands จะตอบสนองเร็วขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา ส่วนการคูณ ATR ในจำนวนมากๆ จะส่งผลต่อ channel ที่ใหญ่ขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้ราคาอาจไม่สูงเท่ากับ band นั่นเองค่ะ