Forex และตลาด

การซื้อขายในนามตนเอง มีประโยชน์อย่างไรกับบริษัทด้านการเงิน

Thai Trading Focus

การซื้อขายในนามตนเอง มีประโยชน์อย่างไรกับบริษัทด้านการเงิน

การซื้อขายในนามตนเอง (Proprietary trading) หมายถึง การที่บริษัทด้านการเงินหรือธนาคารที่ทำการซื้อขายในตลาดโดยตรง ซึ่งไม่ได้ทำการซื้อขายเพื่อต้องการค่านายหน้าจากลูกค้า

บางคนอาจเรียกการเทรดในลักษณะนี้ว่า prop trading ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อบริษัทด้านการเงินตัดสินใจที่จะหากำไรจากการทำกิจกรรมในตลาดมากกว่าการหากำไรจากให้บริการแก่ลูกค้าและได้รับผลตอบแทนเป็นค่านายหน้า ซึ่งการเทรดรูปแบบนี้อาจรวมไปถึงการซื้อขายหุ้น, สินค้าอุปโภคบริโภค, ตราสารหนี้, สกุลเงิน หรือเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ

แล้วการซื้อขายในนามตนเองสามารถทำได้อย่างไร?

การเทรดในลักษณะนี้จะทำขึ้นได้ก็ต่อเมื่อการเทรดนั้นอยู่ในนามของบริษัทด้านการเงิน, ธนาคารเพื่อการลงทุน, บริษัทหลักทรัพย์, กองทุน หรือสินทรัย์ที่มีสภาพคล่องอื่นๆ ที่ใช้เงินทุนของบริษัทและงบดุลในการโปรโมทกิจกรรมทางการเงินของตนเอง ซึ่งการเทรดในลักษณะนี้ก็เปรียบเสมือนการเก็งกำไร โดยการเทรดลักษณะนี้ใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายและมีความซับซ้อน

ประโยชน์ของการซื้อขายในนามตนเอง

สำหรับบริษัทด้านการเงินและธนาคารในเชิงพาณิชย์ การซื้อขายในนามตนเองให้ประโยชน์แก่บริษัทเหล่านี้เป็นอย่างมาก ซึ่งประโยชน์หลักก็คือ ช่วยเพิ่มกำไรที่รายปี และรายไตรมาสให้สูงขึ้นได้

ในทางกลับกันถ้าบริษัทหลักทรัพย์หรือธนาคารเพื่อการลงทุนทำหน้าที่เป็นตัวแทนการซื้อขายให้กับลูกค้า กำไรที่ได้ก็จะกลายมาเป็นในรูปของค่านายหน้าหรือค่าธรรมเนียม ซึ่งรายได้ส่วนนี้มักจะอยู่ในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์ ที่ถูกแบ่งออกมาจากเงินทุนทั้งหมดหรือกำไรที่ลูกค้าได้รับ ดังนั้นการซื้อขายในนามของตนเองจึงมีข้อดีกว่าตรงที่บริษัทเหล่านั้นได้กำไร 100% นั่นเอง

ประโยชน์ข้อที่สอง บริษัทสามารถเก็บสะสมหลักทรัพย์เป็นเสมือนสินค้าคงเหลือของบริษัทได้ โดยมี 2 วิธีดังนี้
วิธีที่ 1: สินทรัพย์เหล่านั้นสามารถช่วยบริษัทในการเก็งกำไร เพื่อเสนอให้กับลูกค้า

วิธีที่ 2: เพื่อช่วยให้บริษัทเตรียมรับมือกับสภาพคล่องของตลาดเมื่อมีภาวะถดถอย หรือเมื่อสินทรัพย์เหล่านั้นยากต่อการซื้อขายในตลาด

และประโยชน์ข้อสุดท้ายซึ่งมีความสอดคล้องกับประโยชน์ข้อที่สอง นั่นก็คือ การเทรดในนามของตนเอง จะฃ่วยให้บริษัทเหล่านั้นเป็นปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อ market makers เนื่องจากพวกเขาส่งผลต่อสภาพคล่องของสินทรัพย์ หรือกลุ่มของสินทรัพย์นั้นๆนั่นเอง

Show More
Back to top button