กลยุทธ์การเทรดในตลาดฟอเร็กซ์
กลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์เป็นเทคนิคหนึ่งที่นักเทรดใช้ในการกำหนดการซื้อขายคู่สกุลเงินในตลาดฟอเร็กซ์ โดยกลยุทธ์นั้นมี 2 วิธีด้วยกัน ได้แก่ วิธีการเทรดอัตโนมัติและวิธีการเทรดด้วยตนเอง
ระบบการเทรดด้วยตนเองนั้นเป็นวิธีที่นักเทรดนั่งอยู่ด้านหน้าจอคอมพิวเตอร์ จากนั้นนักเทรดมองหาสัญญาณและจะต้องอ่านสถานการณ์การตลาดให้ออกว่า เมื่อใดที่นักเทรดควรซื้อหรือขายคู่สกุลเงิน ในขณะที่วิธีการซื้อขายอัตโนมัติเป็นการที่นักเทรดพัฒนาวิธีการในการหาสัญญาณการเทรดและจากนั้นให้ระบบทำการเทรดแบบอัตโนมัติ
เพราะฉะนั้นเรามาดูองค์ประกอบของการสร้างกลยุทธ์ที่นักเทรดควรรู้กันดีกว่าค่ะ
1. การเลือกตลาด
นักเทรดต้องเลือกว่า ตนเองต้องการเทรดคู่สกุลเงินใด ซึ่งนักเทรดควรจะมีความรู้หรือความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับคู่สกลุเงินเหล่านั้นด้วย
2. การกำหนดขนาด
นักเทรดควรรูวิธีการกำหนดขนาดของการเทรด เพื่อควบคุมปริมาณความเสี่ยงในแต่ละรายการเทรด
3. การเข้าตลาด
4. การออกตลาด
นักเทรดจะต้องบอกได้ว่า เมื่อใดที่พวกเขาควรจะออกตลาด และพวกเขาจะจัดการกับรายการเทรดนั้นได้อย่างไร เมื่อพวกเขาได้รับผลขาดทุน
5. ยุทธวิธีการเทรด
นักเทรดจะต้องสามารถตั้งกฎเกณฑ์เกี่ยวกับวิธีการซื้อขายคู่สกุลเงิน
ในส่วนนี้นักเทรดควรพิจารณาเรื่องของการพัฒนาระบบการเทรดในโปรแกรมการเทรด และให้ระบบทำการเทรดแบบอัติโนมัติ ซึ่งวิธีนี้อาจเป็นวิธีที่ทำให้นักเทรดพัฒนาการเทรดได้ง่ายขึ้น
ในทางกลับกัน ทุกๆกลยุทธ์ของการเทรดฟอเร็กซ์ นักเทรดไม่สามารถนำมาใช้ได้ตลอดไป เนื่องจากสถานการณ์ในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่สม่ำเสมอ ดังนั้นนักเทรดควรที่จะพัฒนาทักษะต่างๆและคอยเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เป็นไปตามสถานการณ์นั้นๆด้วย
เพราะฉะนั้นราได้รวบรวม 3 สิ่งที่จะช่วยนักเทรดเปลี่ยนกลยุทธ์ในการเทรดก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของแผน
1. จับคู่สไตล์การเทรดและวิธีการบริหารจัดการความเสี่ยง
ถ้าอัตราความเสี่ยงและผลตอบแทนนั้นไม่เข้ากัน กลยุทธ์ที่คุณมีอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง
2. ตลาดมีวิวัฒนาการ
3. ความเข้าใจ
กลยุทธ์ต่างๆจะม่มีประโยชน์เลย ถ้านักเทรดไม่เข้าใจกลยุทธ์นั้นๆ เพราะฉะนั้นปัญหาอาจเกิดขึ้นได้ ถ้านักเทรดไม่รู้และเข้าใจกฎเกณฑ์การเทรด มากไปกว่านั้นประสิทธิภาพของกลยุทธ์ก็จะไม่มีด้วยเช่นกัน
ข้อสรุปก็คือ การตัดสินใจเลือกกลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญมากในการเลือกให้ตรงกับความต้องการของคุณเอง เพราะวิธีนี้จะช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนมากขึ้น นอกจากนั้นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เข้ากับความต้องการของคุณ และสถานการณ์การตลาดก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงมากจนเกินไปก็ไม่ดี ทุกอย่างต้องอยู่ที่การตัดสินใจอย่างมีเหตุมีผลค่ะ