Forex และตลาดThai Trading Focus

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาด

Thai Trading Focus

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาด

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ที่เข้ามาเยี่ยมชม ThaiTradingFogus ทุกท่าน สบายดีกันไหมครับ ส่วนตัวผมนั้น วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องราวชองน้ำมันกันต่อ หลังจากที่เคยได้เล่าคร่าว ๆ เกี่ยวกับการลงทุนกับน้ำมันในโลกของฟอเร็กซ์ไปแล้วในบทความก่อน ๆ ว่าอยู่ในลักษณะเช่นเดียวกับการเทรดคู่สกุลเงินครับ การเทรดน้ำมันในโลกของฟอเร็กซ์นั้น ไม่ใช่การไปซื้อน้ำมันจริง ๆ มาเก็บไว้นะครับ แต่เป็นการที่เราจะคาดการณ์ และซื้อ-ขาย ตัวมูลค่าของน้ำมันในอนาคตต่างหาก ซึ่งหากเราสามารถคำนวณและคาดการณ์ทิศทางมูลค่าของน้ำมันในอนาคตได้อย่างแม่นยำ เราก็จะได้รับกำไรจากออร์เดอร์ที่เราเปิดไปนั่นเอง ซึ่งนี่เป็นพื้นฐานของ CFD หรือ Contract for different (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) นั่นเองครับ (อ่านบทความเต็มได้ที่นี่)

และแน่นอนว่า เมื่อเราเทรดน้ำมันในรูปแบบของฟอเร็กซ์ เราก็จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ ที่สามารถส่งผลต่อราคาของน้ำมันได้ เพื่อที่จะนำมาใช้ประกอบการคาดการณ์ราคาของน้ำมันในอนาคต ว่าจะวิ่งไปในทิศทางใด จะขึ้น หรือจะลงนั่นเองครับ ว่าแล้วเราก็มาดูปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาของน้ำมันในตลาดกันดีกว่า

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดมีอะไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้ว หลักการของการเก็งราคาน้ำมันก็คล้าย ๆ กับสกุลเงินเช่นกันครับ และด้านล่างนี้ ก็คือปัจจัยหลัก ๆ ที่ส่งผลต่อราคาน้ำมัน

1.อุปสงค์-อุปทานในตลาด

แน่นอนว่าถ้าเราพูดถึงตลาดล่ะก็ จะขาดสองคำนี้ คืออุปสงค์ และอุปทานไปไม่ได้ หลักการพื้นฐานก็คือ เมื่อความต้องการสิ้นค้าชนิดหนึ่งสูงขึ้น ก็จะผลักดันให้ราคาสูงขึ้นตาม ในทางกลับกัน หากอุปทาน หรือการผลิตสินค้านั้น มีมากกว่าอุปสงค์ ซึ่งก็คือความต้องการซื้อ ก็จะส่งผลให้ราคาของลดต่ำลงมานั่นเอง แต่ดดยทั่วไปแล้ว ความต้องการน้ำมันดิบในโลกของเราค่อนข้างแน่นอนว่าสูงครับ ในขณะที่การผลิตน้ำมันไม่แน่นอน เราจึงสามารถเห็นราคาของย้ำมันที่สูงขึ้นอยู่บ่อยครั้งได้เป็นปกติ โดยเฉพาะเมื่อเกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จะส่งผลให้ความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปใช้ในภาคส่วนต่าง ๆ ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นนั่นเอง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาด

2.อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน USD

เราต่างทราบกันว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น เป็นสกุลเงินที่ทรงพลังในโลกใบนี้ และเวลาที่ประเทศต่าง ๆ ซื้อขายน้ำมัน ก็จะใช้สกุลเงิน USD ครับ เพราะถือว่าเป็นสกุลเงินกลางนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ หากสกุลเงิน USD อ่อนค่าลง ทำให้ประเทศต่าง ๆ ใช้เงินเท่าเดิมแต่สามารถแลก USD ได้จำนวนมากขึ้น นั่นก็หมายความว่าจะสามารถซื้อน้ำมันได้ถูกลงนั่นเอง และนี่ก็จะผลักดันให้ความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นครับ

ยกตัวอย่างเช่น สมมุติให้ราคาน้ำมันบาร์เรลลละ 2 ดอลลาร์ เราเคยใช้เงิน 10 บาท แลกได้ 4 ดอลลาร์ ก็จะซื้อน้ำมันได้ 2 บาร์เรล แต่ต่อมาอัตราแลกเปลี่ยนนั้นกลับอยู่ที่ 10 บาท ได้ 6 ดอลลาร์ ดังนั้นเราจะสามารถซื้อน้ำมันได้ถึง 3 บาร์เรล ซึ่งใช้เงินเท่าเดิมแต่กลับซื้อของได้มากขึ้น ดังนั้นใคร ๆ ก็ต้องอยากรีบกักตุนครับ (อ๊ะ ย้ำนะครับว่านี่เป็นตัวเลขสมมุติเพื่อให้เห็นภาพได้ชัด ๆ เข้าใจง่าย ๆ เท่านั้น)

3. ปัจจัยสภาพอากาศ ภัยพิบัติ รวมไปถึงความวุ่นวายทางการเมือง

จะเห็นได้ว่าตรงนี้เหมือนกันกับปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงินเลย ถูกไหมครับ แต่ในรายละเอียดนั้นต่างกันออกไปเล็กน้อย โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อสกุลเงิน จะเป็นเพราะเรื่องของความมั่นคง และความมั่นใจของเหล่านักลงทุนครับ แต่สำหรับย้ำมันแล้ว เหตุการณ์ภัยพิบัติ และความวุ่นวายทางการเมือง นอกจากจะส่งผลกระทบด้านความมั่นคงแล้ว มันยังส่งผลกระทบให้ความต้องการต่อน้ำมันนั้นลดลงในประเทศที่ประสบภัย ส่วนหากว่าประเทศที่ประสบภัยนั้นเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันล่ะก็ จะทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกลดลง นั่นหมายถึงอุปทานที่ลดลง จะไปผลักดันให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นได้นั่นเอง

4.ปัจจัยทางความรู้สึก หรืออารมณ์ของตลาด

ความรู้สึกของนักลงทุนนั้น สามารถส่งผลต่อราคาของน้ำมันในตลาดได้เช่นกันครับ โดยตลาดน้ำมันนั้น เป็นตลาดที่มีความอ่อนไหวต่อกระแสข่าวรายวันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม รวมทั้งการเมือง ซึ่งสามารถก่อให้เกิดความกลัว และความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อสถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ได้

และนี่ก็คือเรื่องราวของปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาด ซึ่งเราควรจะศึกษาและติดตามไว้ โดยเฉพาะเหล่านักเทรดน้ำมันทั้งหลายครับ สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากทางกรุงเทพธุรกิจด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ ผมขอตัวไปก่อน สวัสดีครับ

User Rating: Be the first one !
Show More
Back to top button