ระวัง! ข้อมูลข่าวสารอาจส่งผลต่อราคาหุ้น

ข้อมูลข่าวสารต่างๆ สามารถส่งผลต่อราคาหุ้น เมื่อนักเทรดต้องการที่จะซื้อหุ้น  ความต้องการนี้จะส่งผลต่อราคาหุ้นและราคาตลาด ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขายส่งผลต่อความผันผวนของข้อมูลข่าวสาร ณ ปัจจุบัน

แต่ถึงอย่างไรก็ตามการติดตามข้อมูลข่าวสารอาจไม่ใช่วิธีที่ฉลาดเท่าไหร่นักในการเลือกซื้อขายหุ้น เนื่องจากนักเทรดส่วนใหญ่มักตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ใช่เมื่อมีการรายงานข้อมูลข่าวสารนั้น

ข้อมูลข่าวสารส่งผลกระทบต่อ Wall Street อย่างไร?

ในวันถัดมา นักเทรดจะสามารถตัดสินใจได้ว่า ราคาของ Microsoft จะตกลงต่ำกว่าราคายุติธรรมหรือไม่ ซึ่งจากความคาดหวังในยอดขายสำหรับปีนี้ได้ถูกคาดการณ์ไว้สูง ทำให้นักเทรดจึงตัดสินใจที่จะซื้อหุ้น และส่งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นด้วย

หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง มีรายงานใหม่ออกมาว่า มีการคาดการณ์ยอดขายในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจะชะลอตัวลง ซึ่งการรายงานนี้ทำให้ราคาหุ้นของ Microsoft และบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมทั้งหลายต่างๆพากันลดต่ำลง

และนี่ก็เป็นเหตุผลข้อหนึ่งที่นักเทรดหุ้น conservative นิยมใช้กลยุทธ์ buy-and-hold พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องสนใจในเรื่องของเวลา และพวกเขาก็มีความมั่นใจในบริษัทที่พวกเขาลงทุนว่าราคาจะมีการเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว

ข่าวสารที่ดี/ร้าย

สำหรับหุ้นบางตัวแล้ว ข่าวแย่ก็คือ ข่าวดีค่ะ

ยกตัวอย่างเช่น จะมีการเกิดพายุเฮอริเคนขึ้น ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจส่งผลต่อราคาหุ้นด้านสาธารณูปโภคลดต่ำลง และในทางกลับกันหุ้นด้านพลังงานก็จะมีราคาสูงขึ้น หรือมีพายุเข้า ซึ่งหุ้นประกันภัยก็อาจเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกันค่ะ

ในขณะที่ยอดขายเกี่ยวกับสินค้าภายในบ้านก็จะเพิ่มสูงขึ้นในเดือนถัดมา

การตอบสนองต่อข้อมูลข่าวสาร

นักเทรดจะใช้เวลาในการตอบสนองต่อกลไกของข่าวสารในครั้งถัดไป เพื่อที่พวกเขาจะได้ซื้อหรือขายหุ้นก่อนที่พวกเขาจะเปิดเผยตัวเลขจริงๆออกมา

อย่างแรกเลยก็คือ การรายงานเศรษฐกิจของรัฐบาล รายงานจากรัฐบาลส่วนใหญ่แล้วจะใช้เป็นตัววัด lagging และ leading indicators โดย Leading indicators จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ยกตัวอย่างเช่น สินค้าที่ครบเวลากำหนดชำระ

อย่างที่สองข่าวสารจากบริษัทและอุตสาหกรรม การรายงานแบบไตรมาสเป็นรูปแบบข่าวสารที่เก่า นักเทรดต้องการรู้วิธีการกำหนดออเดอร์สินค้า ณ ตอนนี้, สินค้าอะไรที่เป็นที่ต้องการ และมีแนวโน้มที่จะลดลงหรือไม่

อย่างที่สามก็คือ ข่าวซุบซิบ เหตุการณ์การรายงานทางธุรกิจมักจะเกี่ยวกับ ยอดขายของบริษัทนั้นทะลุเป้าหมายหรือไม่ หรือตกลงหรือไม่ ซึ่งเราเรียกว่า “whisper number”

นักเทรดใน Wall Street ต่างพากันพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเกี่ยวกับข่าวสารของบริษัทต่างๆ แต่การพูดคุยนั้นไม่มีหลักฐานใดๆมาประกอบ ดังนั้นผู้ฟังจะต้องใช้วิจารณญาณประกอบกับความรู้ที่ตนเองมีด้วย

ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้

นักเทรดอาจเชื่อว่า พวกเขายอมรับความเสี่ยงได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วโอกาสที่ตลาดจะไม่ได้ไปในทิศทางที่พวกเขา ดังนั้นข่าวร้ายนี้อาจส่งผลต่อตลาดไม่ว่าในทิศทางใดก็ทิศทางหนึ่ง