อะไรที่ทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลง
เมื่อไม่นานมานี้เงินหยวนอ่อนค่าลงเนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น, การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง และความแตกต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของจีนและสหรัฐฯ
ปัญหาคือ การขยายเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของจีนเพิ่มสูงขึ้น หลังจากคำพูดของ Powell ตลาดยอมรับว่า ธนาคารกลาง (Fed) มีแนวโน้มที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75 เปอร์เซ็นต์ในเดือนหน้า
ในภาคการเงินของจีน ค่าเงินหยวนจะยังคงอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่จะอยู่ที่ราวๆ 7 หยวนต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตามความเห็นส่วนตัวมองว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนในครึ่งปีหลังของปีนี้อยู่ที่ประมาณ 6.7-6.9 หยวน ทั้งนี้ครั้งปีแรกสูงกว่าครึ่งปีหลัง หรือเท่ากับ 6.5-6.7 หยวน
ธนาคารกลางของสาธารณรัฐประชาชนจีนสามารถลดอัตราส่วนสำรองสำหรับการชำระเงินสกุลเงินต่างประเทศได้ มากไปกว่านั้นธนาคารกลางของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ตัดอัตราส่วนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ 1% หรือจาก 9% เป็น 8% ในเดือนเมษายน
ดังนั้นคนส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมเชื่อกันว่า เงินหยวนจะอ่อนค่าลงหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเจตจำนงของธนาคารกลางของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่ออัตราค่าเงินหยวนเพิ่มสูงขึ้นจะเป็นการช่วยในเรื่องของการส่งออก ตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้คาดการณ์ว่า ค่าเงินหยวนอ่อนค่าอาจได้ประโยชน์จากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี, สิ่งทอ, เครื่องใช้ในบ้าน, อุปกรณ์โทรคมนาคม และอุตสาหกรรมยานยนต์
นอกจากนั้นค่าเงินหยวนอ่อนค่ายังส่งผลต่อราคาสินค้านำเข้าให้เพิ่มสูงขึ้นเอีกด้วย อย่างไรก็ตามดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน ณ ปัจจุบันอยู่ภายใต้เป้าหมายของการบริหารจัดการของหน่วยงาน (3%) โดยหน่วยงานแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของจีนคาดว่า จะทนต่อค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และพยายามที่จะปกป้องอัตราแลกเปลี่ยน