Value of Yuan is Rapidly Falling
ค่าเงินหยวนร่วงลงอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ความแตกต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และจีนมีความกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าเงินหยวนร่วงลงอย่างรวดเร็ว เพราะเศรษฐกิจจีนมีความซบเซาเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าประเทศจีนจะกลับมาเปิดประเทศใหม่อีกครั้ง (การกลับมาของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ) ทางการจีนมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้มงวด เนื่องจากวิกฤตหนี้อาจเข้าแทรกแซงตลาดอย่างจริงจัง และเพื่อป้องกันไม่ให้เงินหยวนอ่อนค่าลง
จากรายงานของ Bloomberg เมื่อวันที่ 30 ที่ผ่านมา มูลค่าเงินหยวนในตลาดต่างประเทศร่วงลงสู่ดอลลาร์และตกลงที่ 7.2686 หยวนเมื่อวันก่อน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
เนื่องจากค่าเงินหยวนลดลงเกือบ 8% จากต้นปีนี้ ส่งผลให้เงินหยวนตกลงมาเป็นสกุลเงินเอเชียที่ใหญ่เป็นอันดับสามรองจากเงินเยนญี่ปุ่นและเงินริงกิตมาเลเซีย ทั้งสามสกุลเงินแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ในเดือนนี้
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การอ่อนค่าของสกุลเงินหยวนเกิดจากความกังวลเกี่ยวกับช่องว่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างขึ้นระหว่างเงินหยวนและเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการเติบโตและภาวะเงินฝืดที่ต่ำ
เมื่อวันที่ 13 ของเดือนที่แล้ว ธนาคารประชาชนจีน ซึ่งเป็นธนาคารกลางของจีน (People’s Bank of China) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้องลง 0.1 เปอร์เซ็นต์ หรือจาก 2.00% เป็น 1.90% โดยมีการจัดหาสภาพคล่อง 2 พันล้านหยวนให้กับตลาด ซึ่งผ่านข้อตกลงการทำธุรกรรมการซื้อคืน (reverse repurchase agreements) เมื่อวันที่ 20 รัฐบาลลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (LPR) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน
ซึ่งตรงกันข้ามกับสหรัฐฯ ที่มีเสียงเรียกร้องให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเพิ่มเติม เนื่องจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง หากการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศในจีนเร็วขึ้น เพราะความแตกต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ และจีนเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้การอ่อนค่าของเงินหยวนมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นนั่นเอง
การมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจยังเป็นกุญแจสำคัญในการกระตุ้นให้เงินหยวนอ่อนค่าลง ทั้งนี้ Guantao หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก China’s International Bank กล่าวว่า “การร่วงลงของเงินหยวนเป็นเพียงภาพสะท้อนให้เห็นถึงข้อเท็จจริงพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ว่า เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวช้า”