วัฎจักรเศรษฐกิจส่งผลต่อตลาดหุ้นอย่างไร
นักลงทุนควรรู้ถึงความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นและวัฎจักรเศรษฐกิจเสียก่อน จากนั้นนักลงทุนจะต้องหากลยุทธ์ในเรื่องของเวลาและโครงสร้างพอล์ตฟอริโอ้ที่เหมาะสมที่สุด เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำลังจะเริ่มต้นลงทุน คุณต้องเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างสองอย่างนี้
ตลาดหุ้น VS เศรษฐกิจ
ตลาด คือ ระบบที่เกิดขึ้นมาจากนักลงทุนทั้งหมด ซึ่งรวมถึงบุคคล ผู้จัดการสินทรัพย์ ธนาคาร บริษัทประกันภัย และอื่นๆ อีกมากมาย หรือในทางเทคนิคเราเรียกว่า ตลาดเงินทุน ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักลงทุนซื้อและขายหลักทรัพย์เพื่อการลงทุนของตนเอง ยกตัวอย่างเช่น หุ้น พันธบัตร และกองทุนรวม
ในขณะเดียวกันเศรษฐกิจ หมายถึงสิ่งที่อยู่ใต้ระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงอุตสาหกรรม บริษัท ผู้บริโภค รัฐบาล และสถาบันการเงิน หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ สภาพแวดล้อมทางการเงินโดยรวมของเศรษฐกิจของประเทศ
ตลาดหุ้นก้าวหน้า เศรษฐกิจถดถอย
โดยทั่วไปแล้วนักเทรดมักเรียนรู้ค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ ณ ปัจจุบัน โดยเฉพาะสุขภาพการเงินขององค์กรและผู้บริโภค โดยนำข้อมูลเหล่านั้นมาคาดการณ์ราคาของหุ้น ณ วันนี้ อ้างอิงจากการคาดการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต
หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นในภายหลัง ราคาหุ้นก็จะตอบสนองต่อเหตุการณ์นั้นๆ ซึ่งแตกต่างจากตลาดและนักลงทุน ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์มักจะมองย้อนกลับไปในเหตุการณ์ในอดีต โดยใช้ข้อมูลย้อนหลังประมาณ 3 เดือนในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจ ดังนั้นหากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ณ วันนี้ พวกเขาจะไม่รายงานอย่างแน่ชัดเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ถึง 3 เดือน
ทีนี้ลองจินตนาการดูว่า ระยะเวลาเฉลี่ยของตลาดหมีสำหรับหุ้นคือหนึ่งปี นั่นก็หมายความว่า เมื่อนักเศรษฐศาสตร์ออกข่าว ตลาดหมีได้เกิดขึ้นมาแล้ว3-4 เดือน หากเกิดขึ้นต่ำกว่าระยะเวลาเฉลี่ยดังกล่าว แสดงว่านั่นเป็นสัญญาณให้คุณซื้อหุ้นคืน
ในทำนองเดียวกัน เมื่อนักเศรษฐศาสตร์บอกว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลงแล้ว ตลาดกระทิงอาจเกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้ว ดังนั้นตลาดหุ้นจึงเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจ” เนื่องจากสามารถทำนายทิศทางเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ได้