“เงินเฟ้อ” คงจะเป็นคำที่หลาย ๆ คนได้ยินบ่อยใช่ไหม? เงินเฟ้อคือภาวะที่มูลค่าของเงินที่เราถืออยู่นั้นมีค่าน้อยลง บางคนอาจนึกสงสัยว่า ที่บอกว่ามูลค่าของเงินน้อยลงนั้นมันน้อยลงอย่างไร ด้วยเหตุนี้เราจะมาพูดให้เห็นภาพโดยจากสมมติว่า คุณถือเงินอยู่ 100 บาท และสามารถซื้อสินค้า A ที่ราคา 100 บาทได้ในปีนี้ แต่ในปีต่อมา พบว่าเงินเฟ้อขึ้น 1.5 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สินค้า A ที่เดิมราคาอยู่ที่ 100 บาท ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 101.5 บาท ถึงแม้เราจะมีเงิน 100 บาทเท่าเดิม แต่ก็ไม่สามารถซื้อสินค้า A ได้อีกแล้ว นั่นคือ การที่มูลค่าของเงินลดลงนั่นเอง และที่น่าหนักใจก็คือ อัตราเงินเฟ้อมีแต่ปรับเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้น แทนที่จะปล่อยให้เงินในมือของคุณเสื่อมมูลค่าลงเรื่อย ๆ เรามาเอาชนะเงินเฟ้อด้วยการลงทุนกันดีกว่า
ตัวอย่างวิธีการลงทุนที่น่าสนใจ
เมื่อพูดถึงการลงทุนแล้ว ปัจจุบันก็มีช่องทางการลงทุนแบบต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย ซึ่งในบทความนี้เราก็ได้หยิบยกเอาตัวอย่างการลงทุนที่น่าสนใจมากล่าวถึง ตั้งแต่การลงทุนพื้นฐานที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดี ตลอดจนถึงการลงทุนที่กำลังมาแรงในปัจจุบันอย่างฟอเร็กซ์ เป็นต้น
1.เงินฝากประจำ
ข้อดี : เป็นวิธีการที่ปลอดภัย มั่นคง แทบจะไม่มีความเสี่ยง และการออมเงินบางประเภทยังสามารถลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ข้อเสีย : ผลตอบแทนของการลงทุนที่แทบไม่มีความเสี่ยงนี้ ก็ให้ผลประโยชน์น้อยตามไปด้วยเช่นกัน กล่าวคือได้ดอกเบี้ยที่ต่ำ เฉลี่ยอยู่ที่ 1 เปอร์เซ็นต์นิด ๆ ขึ้นนอยู่กับแต่ละธนาคาร ทั้งยังอาจต้องเสียภาษีจากดอกเบี้ยที่ได้อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น การฝากประจำยังทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน เพราะหากต้องการดอกเบี้ยในอัตราที่ธนาคารกำหนด คุณก็จะไม่สามารถถอนเงินออกมาก่อนครบกำหนดฝากได้นั่นเอง
2. การลงทุนในตราสารหนี้
คุณเคยเป็นลูกหนี้ใครรึเปล่า? แต่ไม่ว่าคุณจะเคยเป็น หรือไม่เคยเป็นก็ตาม นี่เป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้เป็นเจ้าหนี้เองแล้ว! กับการลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่้งลูกหนี้ของคุณก็คือรัฐบาลนั่นเอง
ข้อดี : ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงในระดับหนึ่ง และมีความมั่นคง เนื่องจากลูกหนี้ของคุณเป็นรัฐบาล ดังนั้นหากประเทศไทยยังคงอยู่ กำไรของคุณก็จะยั่งยืนยง
ข้อเสีย : หลักของการลงทุนก็คือ High Risk High Return หรือ ยิ่งความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนก็จะสูงตามไปด้วย ดังนั้น การลงทุนตราสารหนี้ประเภทนี้จึงให้ผลตอบแทนที่อาจไม่ทันใจ และอาจขาดสภาพคล่องทางการเงิน เพราะการขายตราสารหนี้นั้นจะมีกำหนดระยะเวลาสำหรับการขายคืนอยู่
3. การลงทุนในกองทุนรวม
คุณเคยจ้างใครมาทำงานบ้านมั้ย? แต่เราจะเปลี่ยนให้มันพีคยิ่งกว่าการปัดกวาดเช็ดถู ด้วยการนำเงินของคุณไปลงทุนในกองทุนรวม ที่ทางสถาบันด้านการเงินชั้นนำจะจ้างบุคลากรระดับหัวกะทิมาคอยเลือกสรรกองทุนเด็ด ๆ แทนคุณ!
ข้อดี : การลงทุนประเภทนี้มีความสะดวกสบายอย่างมาก คุณไม่จำเป็นต้องคร่ำเครียดกับการเฝ้าจอ กราฟ และตัวเลขต่าง ๆ ที่น่าปวดหัว เพราะจะมีคนมาคอยศึกษาและเฝ้าดูแทนคุณ
ข้อเสีย : อย่างไรก็ตาม สี่เท้ายังรู้พลาด หัวกะทิก็ยังมีโอกาสพลั้ง คุณควรหมั่นติดตามข่าวสารด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข่าวสารในแวดวงที่เกี่ยวข้องกับกองทุนที่คุณได้ซื้อไว้ เพราะไม่เช่นนั้น คุณก็อาจจะขาดทุนหรือเสียโอกาสทำกำไรงาม ๆ ได้เช่นกัน
4. FOREX
กล่าวถึงการลงทุนแล้วก็มีมากมายหลายทางเลือก แต่การลงทุนประเภทหนึ่งที่มาแรงและได้ผลกำไรสูงลิบในระยะเวลาเพียงไม่นาน ก็คือการเทรดฟอเร็กซ์นั่นเอง
ข้อดีของการเทรดฟอเร็กซ์ก็คือ ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจแบบไหน เงินเฟ้อเท่าไหร่ ชาวฟอเร็กก็ทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง เพราะการเทรดฟอเร็กซ์คือการทำกำไรจากการแลกเปลี่ยนเงินตราสองสกุล ที่หากคุณสามารถเลือกคู่เงินได้เหมาะสมหรือมีค่าเงินใดค่าเงินหนึ่งกำลังเฟ้อล่ะก็ การเทรดฟอเร็กซ์ก็สามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาล
ฟอเร็กซ์เป็นการลงทุนแห่งยุคดิจิตอลที่เข้ามาพลิกโฉมหน้าการลงทุนแบบเดิม ๆ ที่ช้า และผลกำไรต่ำ คุณเคยได้ยินเรื่องของคนที่เคยทำกำไรได้มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของเงินต้นในช่วงข้ามคืนรึเปล่า? การเทรดฟอเร็กซ์คือหนึ่งในวิธีนั้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากจะให้พูดถึงการเทรดฟอเร็กซ์ให้จบในบทความเดียวก็คงจะเป็นบทความที่ยาว และข้อมูลมหาศาลทีเดียวล่ะ ดังนั้น เราจะมาเจาะลึกถึงเรื่องราวของเจ้าฟอเร็กซ์ต่อในบทความหน้ากัน ฟอเร็กซ์คืออะไร ฟอเร็กซ์สามารถทำกำไรมหาศาลให้คุณได้อย่างไร มาร่วมหาคำตอบกันได้ในเว็บไซต์ของเราเร็ว ๆ นี้