ราคา Bitcoin ได้ถีบตัวสูงขึ้นถึงขีดสุดเมื่อปลายปี 2017 โดยอยู่ที่ราคาสูงเกือบถึง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 1 Bitcoin และมีนักวิเคราะห์หลายคนออกมาคาดการณ์ว่เกี่ยวกับ “price bubble” ซึ่งคล้ายกับภาวะฟองสบู่ดอทคอมเมื่อต้นปี 2000
ดูเหมือนว่า ภาวะฟองสบู่นี้ได้มาถึงและแตกไปแล้วในปี 2018 ส่งผลให้ราคา bitcoin พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและตกลงถึง 80% จากราคาที่สูงที่สุด ซึ่งอยู่ที่ 3,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อสิ้นปี 2018
ต่อมาในกลางปี 2019 Bitcoin ได้ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง โดยอยู่ที่ 14,000 ดอลลาร์สหรัญฯต่อ 1 bitcoin
และแนวโน้มการเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้จะก่อให้เกิดภาวะฟองสบู่เหมือนในอดีตอีกหรือไม่? ราคา Bitcoin จะอยู่ในภาวะฟองสบู่อีกครั้งในปี 2019 จริงหรือ? หรือจะเหตุการณ์ครั้งนี้จะกลายเป็นผลกระทบแบบสโนว์บอล ที่เพิ่มมูงค่ามากขึ้นเรื่อยๆกันแน่?
Bitcoin Bubble
ตราสารทางการเงินที่อยู่ในราคาที่คงที่ จากนั้นราคากลับถีบตัวสูงขึ้นและลดลงอย่างกระทันหัน โดยเหตุการณ์นี้เรียกว่า “price bubble”
และมากไปกว่านั้นราคาที่ลดลงจะลดลงมากกว่า 50% จากราคาที่จุดสูงสุดในเวลาอันสั้น และเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ในโลกของการเงิน เพราะฉะนั้นการจะระบุว่า Bitcoin bubble จะเกิดขึ้นหรือไม่เป็นอะไรที่คาดการณ์ได้ยาก ซึ่งปัจจัยต่างๆมีความผันผวนมาก โดยภายใน 4 ชั่วโมง ราคาอาจเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงถึง 6-11% คุณก็คงจินตนาการออกนะคะว่า โดรงสร้างของราคาแบบรายวันและรายสัปดาห์เป็นอย่างไร
Bitcoin ถีบตัวสูงขึ้นอย่างกระทันหัน
Bitcoin ถีบตัวสูงขึ้นอย่างกระทันหันมากในสัปดาห์นี้ ด้วยราคาที่สูงขึ้นถึง 20% ใน 7 วันที่ผ่านมา มากไปกว่านั้นราคาของ Bitcoin ยังกระโดดขึ้นสูงมากกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 1 Bitcoin ภายในไม่กี่นาทีเพียงชั่วข้ามคืน
forbes.com เผยว่า สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และการอ่อนตัวของเงินเยน เป็นปัจจัยหลักของการเกิดปัญหาเศรษฐกิจในครั้งนี้ โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มีผลกระทบต่อราคาของ Bitcoin เมื่อล่าสุดนี้